"น้ำฝน" profile icon
Kim cươngKim cương

"น้ำฝน", Thailand

ผู้ใช้งาน

Giới thiệu "น้ำฝน"

แม่ท้อง

Bài đăng(13)
Trả lời(289)
Bài viết(0)

เกร็ดความรู้เล็กๆมาฝากแม่ๆจ้า

ความเชื่อทารกแรกเกิด ?? จริงไม่จริง ไม่รู้ละ ผู้ใหญ่เค้าว่ามางี้ 10 ความเชื่อทารกแรกเกิด ไม่อยากขัดใจ ปู่ ย่า ตา ยาย ลองไว้ก็น่าจะดี??? .... ? 1.โกนผมไฟผมจะได้ดกดำ ความจริง: สมัยโบราณนิยมโกนผมไฟให้แก่เด็ก เพราะเชื่อกันว่าผมของเด็กที่ติดมาตั้งอยู่ในท้องแม่นั้นเป็นผมที่ไม่สะอาด และยังบอบบางมากอีกด้วยทำให้หลุดร่วงง่ายจึงต้องโกนทิ้ง ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีแชมพูสำหรับเด็กเช่นสมัยนี้จะใช้น้ำอุ่นสระผมให้เด็ก ดังนั้น การโกนผมไฟจึงมุ้งเน้นไปที่สะดวกในการทำความสะอาดมากกว่าที่จะให้ผมขึ้นมาดกดำ เพราะความจริงแล้วการโกนผมไม่ได้ทำให้ผมดกดำขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่ผมเดิมตอนที่คลอดออกมาจะดูบอบบาง และจะหลุดร่วงไปเองประมาณ 2-3 เดือน ที่คนโบราณมักพูดว่า ช่วงไหนที่ลูกผมร่วงแปลว่าลูกจำหน้าแม่ได้แล้ว ผมจะดกดำหรือไม่นั้นแท้ที่จริงขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ หากคุณพ่อคุณแม่ผมบางลูกก็มักจะผมบาง หากมีผมดกดำลูกก็จะมีแน้วโน้มผมดกดำเช่นกัน ดังนั้นโกนหรือไม่โกนก็ไม่มีผลทำให้ดกดำหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ 2.ดอกอัญชัน น้ำนมแม่ กานพลู ทำให้ผมและคิ้วดกดำ ความจริง : จากผลการทดสอบของนักวิจัย พบว่า ดอกอัญชันมีสารกลุ่มแอนโธไซยานินซี่งหากนำมาหมักผมจะช่วยกระตุ้นหนังศีรษะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมทำให้ผมดกดำ ส่วนกานพลู น้ำนมแม่นั้น ยังไม่มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงหากคุณแม่คิดจะใช้อัญชัน หรือกานพลู ต้องดูว่ามีการเกิดอาการผื่นแพ้หรือไม่เพราะผิวทารกบอบบางอาจเกิดการระคายเคือง 3.ใช้ปัสสาวะทารกกวาดลิ้นป้องกันฝ้าขาว ความจริง : ปัสสาวะเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาหากนำไปกวาดลิ้นจะทำให้ทารกได้รับเชื้อโรค ฝ้าขาวที่ลิ้นนั้นเมื่อทารกดูดนมเข้าไปแน่นอนว่าลิ้นจะต้องเป็นฝ้าขาวแน่นอน ทางที่ดีควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดลิ้นเบา ๆ จะดีกว่าค่ะ ปลอดภัยกว่าการใช้ปัสสาวะแน่นอน ไม่ต้องกังวล 4.บีบจมูกทารกเพื่อดั้งจมูกโด่ง ความจริง : กระดูกตรงสันจมูกของลูกน้อยจะเป็นกระดูกอ่อน ๆ ทารกที่เกิดมาใหม่แทบจะทุกคนจมูกจะดูแบน ๆ แต่พอโตขึ้นแล้วถึงจะรู้ว่าจมูกโด่งหรือไม่โด่ง การบีบจมูกลูกน้อยบอกได้เลยค่ะว่าไม่มีผล คุณแม่ไม่จำเป็นต้องบีบ นวด คลึงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการที่เด็กมีจมูกโด่งหรือไม่โด่งนั้นขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ การไปบีบจมูกในขณะที่ยังเป็นทารกอยู่นั้นด้วยผิดที่บอบบางอาจทำให้จมูกเกิดการอักเสบได้ 5.ห้ามตัดเล็บจนกว่าจะ 1 เดือน ความจริง : การตัดเล็บของทารกที่เกิดใหม่ โบราณท่านว่าห้ามตัดก่อน 1 เดือน เพราะอาจทำให้เด็กทารกไม่สบายได้ ในความเป็นจริงแล้วการตัดเล็บของทารกก่อน 1 เดือนไม่มีผลทำให้ไม่สบายแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเล็บของทารกจะอ่อนและบางมาก คุณแม่มือใหม่อาจจะเผลอตัดเล็บลูกแล้วเข้าเนื้อต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันไป น่าจะเป็นเพียงกุศโลบายเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นมากกว่าค่ะ คุณแม่ควรดูแลเล็บไม่ให้ข่วนหน้าข่วนตาและมีการเล็มเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อความปลอดภัยดีที่สุด หรือป้องกันโยการใส่ถุงมือ แต่อย่างไรก็ตามการใส่ถุงมือไม่ควรใส่เป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้เด็กมีพัฒนาการในการหยิบจับช้าได้นะคะ 6.นอนคว่ำหัวจะสวยและนอนได้นาน ความจริง : ตามหลักวิชาการแล้ว ไม่แนะนำให้ทารกนอนคว่ำเลยค่ะ แม้ว่าอาจะทำให้หัวสวยก็จริง แต่เป็นอันตรายมาก เพราะมีกรณีที่เด็กทารกนอนคว่ำแล้วหยุดหายใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะเด็กไม่สามารถยกศีรษะเพื่อช่วยเหลือตนเองได้หน้าคว่ำอยู่กับที่นอน หมอน ทำให้ขาดอากาศหายใจนั่นเอง อีกอย่างคุณแม่บางคนให้ลูกกินนมอิ่ม ๆ เมื่อลูกหลับ แล้วจับนอนคว่ำเพราะคิดว่าจะได้หลับนาน อาจทำให้ลูกสำลักนมได้ ทางที่ดีให้เด็กนอนตะแคงจะปลอดภัยกว่าค่ะ 7.ปากและรอยตำหนิ ความจริง : คนโบราณเชื่อกันว่า เด็กทารกที่เกิดมามีปาน ไม่ว่าจะเป็นปานแดงหรือปานดำ นั่นเป็นเพราะ เจ้าหนูได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง แล้วถูกป้ายด้วยของเพื่อทำตำหนิไว้ ของนั้นอาจจะเป็นปูนแดงหรือถ่าน เป็นต้น เพื่อที่ว่าเกิดมาใหม่ญาติพี่น้องจะได้จำได้ อันนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ใด ๆ นะคะ แต่ที่แน่ ๆ ตำหนิ กระ หรือปาน ที่ขึ้นตามที่ต่าง ๆ ในร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้ตามกรรมพันธุ์ เป็นเพราะเซลล์ผิวหนังส่วนนั้นผิดปกติ ซึ่งเป็นเรื่องของผิวหนังเฉพาะบุคคล แต่บางคนเมื่อโตขึ้นมักจะจางลงขึ้นอยู่กับชนิดของปานบางชนิดก็เป็นถาวร แต่หากพบว่ามีความผิดปกติ เช่น เข้มขึ้น หรือโตขึ้นเช่นนี้แล้วควรปรึกษาแพทย์ดีกว่าค่ะ 8.เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หลัง 6 เดือนไปแล้ว ควรเลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นด้วย ความจริง : นมแม่เป็นอาหารที่วิเศษที่สุดสำหรับทารกเพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและคุณค่าทางสารอาหาร ทารกที่ดื่มนมแม่มากกว่า 2-3 ครั้ง/วันนั้น ไม่จำเป็นต้องเสริมนมผงหรือนมชนิดอื่นใด แต่อาจจะเสริมเป็นอาหารเสริม แต่ให้นมแม่เป็นอาหารหลัก อย่างไรก็ตามทารกที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนและไม่เคยดื่มนมผสมมาก่อน มักจะไม่ยอมดื่มเพราะไม่คุ้นเคยและไม่อร่อยเหมือนนมแม่ กรณีเช่นนี้เสริมเป็นอาหารเสริมจะดีกว่าค่ะ 9.น้ำนมแม่รักษาตาแดง ความจริง : คุณหมอยืนยันว่า น้ำนมไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้หรือจะนำมารักษาโรคตาแดงได้ เพราะน้ำนมแม่มีเชื้อฝ่ายดีที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ คือ ช่วยป้องกันการท้องเสียให้กับทารกน้อย หากนำมาหยอดตาอาจเกิดการอักเสบได้ ดังนั้นเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ค่ะ 10.ดัดขาตั้งแต่เล็กขาจะได้ไม่โก่ง ความจริง : ความเชื่อเรื่องการดัดขาทารกมีมาทุกยุคทุกสมัย เด็กแรกเกิดจะดูขาโก่ง ๆ โค้ง ๆอยู่แล้วค่ะ แท้ที่จริงแล้ว ขาเด็กจะเริ่มตรงเข้าที่เข้าทางเมื่อมีอายุประมาณ 2 ขวบ แต่ถ้าไปดัดขามาก ๆ เมื่อถึงเวลาที่จะควรจะตรงมันก็อาจจะไม่ตรงก็ได้นะคะ แต่ถ้ากรณี 2 ขวบแล้วถึงวัยที่ขาจะตรงแต่ขายังโก่งแบะอยู่อันนี้น่าจะผิดปกติควรปรึกษาคุณหมอดีกว่าเพื่อให้ได้คำแนะนำที่ดีและตรวจแต่เนิ่น ๆ ดังนั้น คุณแม่ไม่ต้องไปดัดขาลูกน้อยแต่เป็นการนวดขาให้ทารกเกิดความสบายเท่านั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ จากที่อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อหลังคลอดของทารก แม้ว่าบางสิ่งไม่มีอันตรายแต่ก็ไม่ควรอยู่ในความประมาทนะคะ เพราะผิวหนังของทารกอ่อนโยนและบอบบางมาก หากมีข้อสงสัยควรปรึกษากุมารแพทย์โดยตรงจะดีที่สุดค่ะ จะได้รับคำแนะนำดีและและปลอดภัยหายห่วงอีกด้วย Cr.Momchoice

Đọc thêm
 profile icon
Viết phản hồi