วันสุดท้ายแล้งน้า 🎁 มาทางนี้แม่จ๋า! แอดแจก กระโถนชักโครก ฝึกการขับถ่ายสำหรับลูกน้อย 🚽

• เลี่ยงการใช้นมวัว เน้นการให้นมแม่ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายง่าย เพราะฉะนั้นจึงขอแนะนำให้เลือกใช้นมแม่ ซึ่งเป็นนมที่ดีที่สุดและมีสารอาหารครบถ้วนที่สุดค่ะ แต่หากคุณแม่ท่านใดมีความจำเป็นไม่สามารถให้นมทารกได้ ควรเลือกใช้นมผงที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัว เพราะนมผงที่มีส่วนผสมของนมวัวจะทำให้ลูกน้อยขับถ่ายยากขึ้นค่ะ นอกจากนี้อย่าลืมจดบันทึกไว้ด้วยนะคะว่าลูกรับประทานนมยี่ห้อใดแล้วมีอาการอย่างไรบ้าง เพื่อสังเกตว่านมชนิดใดที่เหมาะกับลูกมากที่สุดค่ะ • เลือกนมผงสูตรที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย ปัญหา ทารก 1 เดือน ท้องผูก นับเป็นปัญหาที่คุณแม่หลายท่านพบเจอ ทำให้ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์นมผงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาปัญหานี้โดยเฉพาะ เช่น นมผงสูตรเพิ่มใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ รวมถึงรักษาสมดุลลำไส้ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้ลูกน้อยขับถ่ายสบายยิ่งขึ้นค่ะ • พาลูกน้อยออกกำลังกาย การเคลื่อนไหวร่างกายจะส่งผลให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น เพราะฉะนั้นคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยนอนเฉย ๆ นะคะ ควรพาออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การยกขาลูกน้อยทั้ง 2 ข้างขึ้นลง คล้ายกับท่าปั่นจักรยานอากาศหรือการขยับแขนไปมา เป็นต้น • นวดแก้ท้องผูก เทคนิคนี้เป็นการนวดเพื่อไล่ให้อุจจาระขยับไปมาบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย เป็นผลให้ลูกน้อยขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้น วิธีการคือนวดเบา ๆ บริเวณท้องด้านซ้ายของลูกน้อย ตำแหน่งใต้สะดือลงไปประมาณ 3 นิ้วมือ โดยควรนวด 2-3 นาที เป็นกิจวัตร เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่ายค่ะ • อาบน้ำอุ่น อีกหนึ่งวิธีช่วยแก้ปัญหาลูกน้อยท้องผูกนั่นคือการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นนอกจากจะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัวแล้ว น้ำอุ่นยังช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องเด็กผ่อนคลาย ลดความไม่สบายตัว รวมถึงอาการท้องผูกด้วยค่ะ • ปรับเมนูอาหารของคุณแม่ เพราะสารอาหารที่ลูกน้อยได้รับนั้นมาจากน้ำนมของคุณแม่ ดังนั้นเมื่อลูกน้อยมีอาการท้องผูก แนะนำให้คุณแม่ลองปรับเมนูอาหารของตนเองดูนะคะ เช่น เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช เพื่อเพิ่มกากใยให้ร่างกายและส่งผลดีให้กับลูกน้อยนั่นเองค่ะ เมื่อคุณแม่ต้องรับมือกับปัญหา ทารกท้องผูก อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้นะคะ แต่หากลองปฏิบัติหลายวิธีแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้พบแพทย์เพื่อสอบถามปัญหาและขอคำแนะนำจะดีที่สุด ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรทิ้งเวลานานเกิน 1-2 สัปดาห์ และไม่ควรเลือกใช้วิธีสวนอุจจาระ เนื่องจากวิธีนี้อาจทำให้เนื้อเยื่อภายในฉีกขาด ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลร้ายแก่ลูกน้อย ดังนั้นหากคุณแม่ไม่แน่ใจถึงวิธีแก้ไขปัญหาท้องผูก จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาหรือขอคำแนะนำจะดีที่สุด เพราะจะส่งผลดีต่อสุขภาพของลูกน้อยในระยะยาวค่ะ

🤱สำหรับตัวแม่ ที่ทำเป็นกิจวัตรต่อเนื่องมาหลายปี ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 1. หลังตื่นนอนทุกเช้า (ก่อนแปรงฟันเลยนะคะ) จะดื่มน้ำอุณหภูมิห้องทันทีอย่างน้อย 1 แก้ว ทำทุกวันอย่าขาด 2. ระหว่างวันดื่มน้ำเพิ่มขึ้น โดยการดื่มเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่หิวแล้วดื่ม 3. กินผักใบเขียวที่มีเส้นใย รวมถึงผลไม้ที่ช่วยเรื่องขับถ่าย เช่น มะละกอสุก ส้ม หรือแก้วมังกร ผลไม้อื่นๆ ก็ทานด้วยนะคะ 4. โยเกิร์ตก็ช่วยได้ค่ะ จะกินเวลาไหนก็ได้ รสไหนก็ได้ แม่ทำแบบนี้มาตลอด และช่วงตั้งครรภ์ก็ไม่มีปัญหาท้องผูก พอคลอดแล้วก็ขับถ่ายปกติ แถมช่วงที่ตั้งครรภ์ ผิวไม่แห้ง ท้องไม่แตกลายด้วยนะคะ ❤ 👶 ส่วนเด็กน้อย เป็นเด็กนมแม่มาตลอด 2.1 ปี ไม่มีปัญหาท้องผูกเลย เริ่มทานอาหารเมื่ออายุครบ 6 เดือน ก็ยังปกติดีทุกอย่าง ช่วงนี้ 2.1 ขวบ งดนมแม่ และงดมื้อดึกแล้ว ก็ยังขับถ่ายปกติดี ช่วงงดมื้อดึก ตื่นเช้ามา น้องจะขอน้ำดื่มทันทีทุกเช้า (คงเห็นแม่ทำทุกวัน 😆) และหากวันไหนน้องกินกล้วย (ชนิดไหนก็ได้) น้องจะยิ่งขับถ่ายสะดวกมากๆ ค่ะ ทั้งๆ ที่น้องไม่ทานผัก แต่ก็มีทานขนมปังโฮลวีต ผลไม้ โยเกิร์ตบ้าง เคล็ดไม่ลับฉบับแม่ตา แต่หาวิธีฝึกน้องขับถ่ายนั่งกระโถนยังไม่ได้😂

1. ดื่มนมวันละไม่เกิน 32 ออนซ์ (นมมีแคลเซียมสูงมักจับกับไขมัน เกิดก้อนแข็ง) ดื่มนมมากเกินมักทำให้ท้องผูก 2. กินอาหารเด็กตามวัย โดยให้อัตราส่วนของข้าว:เนื้อสัตว์:ผักผลไม้ เท่ากับ 2:1:1 3. ให้ข้าวซ้อมมือกับลูก หรือขนมปังโฮลวีต เพราะมีกากใยอาหารมากกว่าข้าวหรือแป้งสาลีขาว ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น 4. ให้กินผักผลไม้สดที่มีใยอาหารมาก เช่น ส้มทั้งกลีบ ชมพู่ มะละกอ และดื่มน้ำมากขึ้น ส่วนอาหารว่างควรเป็นผลไม้ ไม่ควรตามใจให้กินแต่ขนมหวาน 5. พาลูกไปนั่งถ่ายอุจจาระหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ 6. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้องจะได้แข็งแรง มีแรงเบ่ง ในทารกการนวดหน้าท้องแบบรูปตัว U กลับหัว ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหวบีบตัวขับอุจจาระออกได้ กรณีท้องผูกเรื้อรัง อาจต้องให้ยาระบายระยะหนึ่ง เพื่อให้ลำไส้ทำงานได้ปกติ หากพ่อแม่พบว่า ลูกท้องผูก ควรตรวจว่าลูกมีแผลที่ก้นหรือไม่ ถ้าพบแผล ให้นั่งแช่น้ำอุ่นนาน 20 นาที เช้าเย็น ทาแผลที่ก้นด้วยวาสลีน

คุณแม่:ต้องตื่นเป็นเวลา ตอนเช้าให้ดื่มน้ำอุ่น หรือนมอุ่น ให้ร่างกายได้ตื่นตัว ยืดเส้นยืดสายร่างกายเบาๆ ให้ระบบขับถ่ายได้ทำงาน หรืออาจจะทำงานบ้าน ที่ไม่หนักมากให้ร่างกายได้ออกเหงื่อนิดหน่อย ของว่างหลังจากทานข้าว อาจเป็นพวกผลไม้ หรือโยเกิร์ต ก่อนอาบน้ำตอนเย็นก็เล่นโยคะ และทานนมอุ่นหรือน้ำอุ่นก่อนนอนค่ะ ส่วนลูก:ก็ต้องตื่นเป็นเวลาค่ะ ฝึกให้ถ่ายเป็นเวลา ร่างกายจะกระตุ้นให้รู้สึกอยากขับถ่าย กินขนมขบเคี้ยวหรืออาหารฟาดฟู๊ดให้น้อยลง เน้นกินอาหารที่มีผักใบเขียวร่วมด้วย และให้เขาทำกิจกรรมที่ขยับร่างกายมีการเผาพลาญร่างกาย ระบบขับถ่ายจะดี สุภาพก็จะดี รวมถึงสุขภาพจิตด้วยค่ะ😉

ปกติแล้วแม่เป็นคนขับถ่ายปกติค่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องท้องผูก แม่ขับถ่ายเป็นเวลาคือตื่นเช้ามาก็ขับถ่าย เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แม่ทานอาหารเป็นเวลาและชอบทานผักผลไม้ ดื่มน้ำมากพอตลอดทั้งวัน คือดื่มทุกๆชั่วโมง แต่หากวันไหนมีโปรแกรมกิจกรรมที่ไม่ปกติ ทำให้เรื่องการทานอาหารไม่ตรงเวลาดื่มน้ำไม่มากพอ แม่ก็จะดูแลตัวเองหลังเสร็จกิจกรรม เมื่อแม่ปฏิบัติตัวเป็นแบบนี้ แม่ก็จะลูกเลี้ยงให้เป็นเหมือนแม่ไม่ให้มีปัญหาเรื่องท้องผูกค่ะ การที่แม่จะปฏิบัติอย่างไรต่อลูกนั้นสำคัญตรงที่แม่ควรเป็นแบบอย่างให้ลูกดูค่ะ.

ให้ดื่มนมวันละไม่เกิน 32 ออนซ์ (นมมีแคลเซียมสูงมักจับกับไขมัน เกิดก้อนแข็ง) ดื่มนมมากเกินมักทำให้ท้องผูก กินอาหารเด็กตามวัย เน้นครบ5หมู่​ ข้าว:เนื้อสัตว์:ผักผลไม้  ให้ลูกทานข้าวซ้อมมือ หรือขนมปังโฮลวีต เพราะมีกากใยอาหารมากกว่าข้าวหรือแป้งสาลี ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น ให้กินผักผลไม้สดที่มีใยอาหารมาก เช่น ส้มทั้งกลีบ ชมพู่ มะละกอ และดื่มน้ำมากขึ้น ส่วนอาหารว่างควรเป็นผลไม้ ไม่ควรตามใจให้กินแต่ขนมหวาน พาลูกไปนั่งถ่ายอุจจาระหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ

เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องผูก -ไม่ควรให้ลูกน้อยดื่มนมวัวหรือนมที่มีแคลเซียมสูงวันละไม่เกิน 32 ออนซ์ -ทำอาหารให้ลูกน้อยตามวัย ข้าวซ้อมมือหรือขนมปังโฮลวีต เพราะมีกากใยมาก -ควรให้ลูกน้อยกินผักผลไม้สดที่มีใยอาหารมาก เช่น ส้มทั้งกลีบ มะละกอ ชมพู่และดื่มน้ำมากขึ้น -ควรงดอาหารที่ทำให้ท้องผูก เช่น ฝรั่ง กล้วยห่ามๆ ขนมปัง ขนมเค้กที่ทำจากแป้งสาลีขาว ขนมขบเคี้ยวและอาหารมันๆค่ะ

ปกติเป็นถ่ายยากมาก ต้องใช้ตัวช่วยหลายตัวเลยเดียว แต่ใช้ได้แค่ชั่วครู่เท่านั้น หากหยุดกินก็กลับมาผูกเหมือนเดิม จนกระทั่งคุณแม่บอกให้ดื่มน้ำมะนาวตอนเช้า คือ มะนาวกะบน้ำเปล่าล้วนๆ ไม่มีผสมใดๆทั้งสิ้น (แอบขนลุก 55555) แต่ก็เห็นผลจริงๆ ช่วงแรกๆต้องกินต่อเนื่องประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นแม้จะไม่ได้กินต่อเนื่องแต่พอระบบขับถ่ายทำงานจนเคยชินก็ถ่ายเป็นเวลามากขึ้น

บ้านนี้ ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลยค่ะ สำหรับแม่เป็นคนท้องผูกอยู่แล้ว เน้นดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตรค่ะ ส่วนลูกชายวัย 1 ขวบ เน้นผลไม้ที่ช่วยขับถ่ายอยู่ 3-4 อย่าง คือ แก้วมังกร,ส้ม,มะเขือเทศและ กี่วี ช่วงไหนถ้าแม่หาโทงเทงฝรั่งได้ ก็จะเอามานึ่งกับแอปเปิ้ลแดง แล้วก็ปั่นใส่ฟรีซไว้ค่ะ แบ่งกินได้เป็นเดือนๆ ส่วนเมนูข้าวแม่เสริมด้วยควินัวใส่ผสมข้าวค่ะให้น้อง

ตอนที่ลูกยังเล็กยังทานนมแม่อยู่ แม่จะทานอาหารที่ย่อยง่าย ผัก ผลไม้ และปั้มนมส่วนหน้าที่มีสีใสให้น้องทานเยอะๆเพราะนมส่วนหน้ามีน้ำตาลแลคโตสเยอะช่วยในการขับถ่าย พอลูกโตขึ้นแม่ให้น้องทานผลไม้ที่เน้นระบบขับถ่าย ส้ม มะละกอ แก้วมังกร ทานน้ำเยอะๆ พาน้องออกทำกิจกรรม ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย และน้องก็เป็นเด็กแข็งแรง อารมณ์ดีด้วยค่ะ