นางสาวทัศนีย์ อมรรัตน์, Thailand

สวัสดีค่ะวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ผ่าคลอดแบบฉุกเฉิน ที่ รพ.รัฐนะคะ กำหนดคลอด 22/5/67 แต่เมื่อวันที่ 14/5/67 เรามีน้ำเดินตอนตี 2.30 น. ออกมาเยอะมากค่ะ แต่เราไม่ปวดท้องเลยนะคะ อายุครรภ์นับตามอัลตร้าซาวน์ 38+6 วีค ใส่ผ้าอนามัยทำอะไรเสร็จเรียบร้อย มาถึง รพ. ตอนตี 4.30 ค่ะ ยังสามารถเดินไปห้องคลอดเองได้นะคะ มาถึงพยาบาลซักประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ความดันเราสูงมาก 172 เราได้นอนแอดมิดให้น้ำเกลือตอน 6 โมงเช้า ระหว่างนั้นคือปวดท้องแต่ยังไม่ถี่นะคะ ยังทนได้ 2-3 ชม. ปากมดลูกเปิด 1 เซ็น ประมาณ 5 โมงเย็นหมอให้ยาเร่ง วินาทีโดนยาคือทรมานเหมือนจะตายให้ได้เลยค่ะ เหมือนเอวจะขาด จะหยุดหายใจ 1-2 นาทีปวดเบ่งที เราเบ่งทีนึงน้ำคร่ำก็ไหล หมอมากระตุ้นปากช่องคลอด กระตุ้นหัวเด็ก สวนสายปัสสาวะ ให้อ็อกซิเจน ให้ยาแก้ปวด ระหว่างนั้นความดันคือสูงตลอดไม่ลงเลย รอตั้งแต่ 6 โมงเช้าจน 6 โมงเย็น ปากมดลูกเปิด 8 เซ็น สุดท้ายหมอแจ้งว่าต้องผ่าคลอดฉุกเฉินนะคะคุณแม่ 18.30 น. เข็นเข้าห้องผ่าตัด เราบล็อคหลังค่ะ พยาบาลให้งอตัวเข่าชิดเยอะๆจะไม่เจ็บ (ไม่เจ็บจริงๆ) พยาบาลเอาไม้จิ้มฟันมาจิ้มแขนกับหน้าอก ให้ลองขยับขา จะเริ่มชาตั้งแต่ช่วงล่างขยับไม่ได้เลยค่ะและดีตรงที่หายปวดท้องไปด้วยสบายหน่อย ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เราก็ได้ยินเสียงลูกเราร้องแล้วค่ะ พยาบาลอุ้มมาให้ดู และใช้เวลาอีก 3-5 นาทีในการเย็บแผลปิด เป็นอันเสร็จขั้นตอนการผ่าคลอดค่ะ แต่จะบอกว่าในห้องหนาวมาก หนาวจนเราสั่นเหมือนผีเข้าเลยค่ะ สั่นจนอายเลย พยาบาลเอาพัดลมความร้อนมาเปิดให้ก็อุ่นขึ้นมาหน่อยค่ะ จากนั้นเข็นไปห้องพักฟื้น ให้น้ำเกลือ ให้อ๊อกซิเจน ให้มอร์ฟีน พักครึ่ง ชม. เข็นไปห้องพักสามัญค่ะ เราต้องนอนราบ 6 ชม. ค่ะ วันรุ่งขึ้นพยาบาลให้ลุกเดินแล้วค่ะ เข้าห้องน้ำ เลี้ยงลูก ค่าใช้จ่าย 3 คืน 4 วัน รวมยาด้วยแล้วประมาณ 19,993 บาท เบิกประกันสังคมมาตรา 39 ได้ 15,000+7,200 ค่ะ เราไม่มีเงินมัดจำ ไม่มีเงินสำรองจ่าย เราก็แจ้งพยาบาล ก่อนออกจาก รพ. เขาจะออกเอกสารให้ไปยื่นทำเรื่องใบเกิดลูกและเปิดสิทธิบัตรทองของ รพ. (ของลูกจึงไม่มีค่าใช้จ่าย) ส่วนของแม่จะมีเอกสารให้คุณพ่อไปยื่นที่สำนักงานประกันสังคม เพื่อเอาเช็คเงินสดออกมาให้ รพ. ค่ะ ใช้เวลาไม่นาน คุณพ่อก็เดินเรื่องเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมกลับบ้านค่ะ #ท้องแรก #ทีมพฤษคม67รายงานตัวค่ะ

#โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี 🤣 บ้านนี้ฝากครรภ์ รพ.ราชวิถี เพราะตอนแรกพักแถวดินแดงค่ะ ฝากจนปัจจุบันอายุครรภ์ 35+5 ย้ายมาอยู่ปทุม เลยคิดว่าถ้าฉุกเฉินจะไปราชวิถีกลัวไม่ทันเพราะไม่มีรถส่วนตัวด้วย จริงๆ อยู่ใกล้ รพ. ธรรมศาสตร์นะคะ แต่เคยถามค่าฝากค่าคลอดแพงเอาเรื่อง กลัวไม่มีจ่าย วันนี้เลยตัดสินใจไปฝากท้อง รพ.ปทุมธานี เพราะอยากเซฟค่าใช้จ่าย (ไม่ได้ทำงาน) บทสนทนาที่ได้กับ รพ.นี้นะคะ ✅ พยาบาล : ที่นี่เรารับฝากทุกคนนะคะแต่จะไม่ได้รับ ทำคลอดทุกเคสมันคนละส่วนกันขึ้นอยู่กับ คุณหมอพิจารณา แต่ดูแล้วคุณแม่ % สูงที่จะไม่ได้คลอดที่นี่นะคะ … ✅ เรา : พิจารณาจากอะไรบ้างเหรอคะ ✅ พยาบาล : ไม่เข้าใจที่พูดเหรอคะ ?? ✅ เรา : ไม่เข้าใจค่ะ ก็เลยถามอีกรอบค่ะ ✅ พยาบาล : ตอบเบาๆ เรารับแต่คนไข้ของเราค่ะ คนที่มีสิทธิที่นี่ แล้วเตรียมคิดไว้รึยังคะ จะไปคลอดที่ไหน ต้องคิดได้แล้วนะคะ ( ส่วนเรากำลังยืน งงๆ 😅) ✅ พยาบาล : ตกลงจะรอมั้ยคะ 4 โมงเย็นนะคะ คนไข้ คนไข้ของพี่ที่นัดไว้มีเยอะ เราเลยบอกสามีตัดสินใจกลับบ้านกัน ระหว่างนั้นเราขอประวัติคืน ✅ พยาบาล : เซ็นชื่อในใบให้ด้วยนะคะว่าปฏิเสธ การรักษาไม่อยากรอจะไปฝากครรภ์ที่อื่น จะได้ไม่ต้องไปโพสต์ไปบอกต่อคนอื่นว่า ที่นี่ไม่รับคลอด 😒😒😒 คิดแล้วก็ได้แต่เดินคอตกแบบ งงๆ กลับบ้าน 😅โ

อายุครรภ์ 35+1 หนัก 2,293 กรัม กลับหัวแล้วค่ะ เหมือนน้ำหนักจะน้อยเลยค่ะ แต่คุณหมอไม่ได้ว่าอะไร ได้ติดเครื่อง nst ครั้งแรก หมอบอกมีภาวะท้องแข็งถี่ทุกๆ 6-7 นาที อยากให้แอดมิดนอนรอดูอาการ อาจเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้ ตรวจปากมดลูกแต่ไม่เปิด เลยขอหมอกลับมาดูอาการที่บ้าน แม่บ้านไหนมีภาวะแบบนี้บ้างคะ ต้องปฏิบัติตัวยังงัย ระวังอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ ท้องแรกด้วยเราก็ดูไม่เป็นอาการท้องปั้นแข็งถี่เป็นยังงัย ตั้งแต่กลับมาบ้านก็มีท้องแข็งอยู่ น้องดิ้นถีบแรงมากดิ้นหนักมาก ปวดหน่วงท้องไปหมด ปวดจิมิ ขาหนีบ ลุกจากเตียงเดินทีเจ็บปวดร้าวมาก ขาก็บวม นัดอีกที 38 วีคค่ะ แม่ๆว่ามีสิทธิ์น้องออกมาก่อนไหมคะ ตอนนี้กังวลไปหมดค่ะ 😔

เล่าสู่กันฟังค่ะ ตอนนี้แม่บ้านนี้ 32w+2d แล้วนะคะ ได้ลูกชายค่ะ 👶🏻 ครั้งแรกฝากครรภ์ที่คลีนิกแถวบ้าน (หมอธรรมศาสตร์) บ้านนี้ไปฝากตอน 8 วีคเราจะได้ไม่เฟลค่ะเพราะเจอทั้งตัวและได้ฟังเสียงหัวใจน้องด้วยค่ะ ฝากครั้งแรก 1,300 บาทครั้งต่อไปอัลตร้าซาวด์พร้อมรับยาบำรุงไม่เกิน 7-800 ค่ะ (แล้วแต่เคส) ฝากคลีนิกอยู่ 4 เดือนแม่ก็ย้ายไปฝาก รพ. รัฐค่ะ คือ รพ. ราชวิถี อนุสาวรีย์ (แม่บ้านอยู่คลองสอง) ก่อนไปหาข้อมูลว่า สปสช. เขามีโครงการฝากครรภ์ฟรีทุกสิทธิ แม่โทรสอบถามทาง รพ. ว่าเข้าร่วมโครงการแม่ก็ตัดสินใจไปเลยค่ะ (ไม่ใช่ทุกรพ.นะคะ) ครั้งแรกคือประทับใจมาก ละเอียดมาก ราคาถูกมากกกก ยาบำรุงเยอะเป็นการเสียเวลา 1 วันเต็มที่คุ้มค่ามาก แต่แม่มีโรคซึมเศร้าที่ต้องกินยาอยู่ด้วยเลยถูกส่งไป #คลีนิกครรภ์เสี่ยงสูงค่ะ ครั้งแรกแม่ใช้สิทธิ์ ปกส. (ทั่วไปที่อื่น) ฝากท้องฟรี เจาะเลือดฟรี ซาวด์ฟรี 2 ครั้ง หลังจากนั้นซาวด์ทุกครั้ง (ครั้งละ 400) หมอนัดเดือนละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการซาวด์ดูน้ำหนักน้องค่ะ และที่ชอบมากคือซาวด์แบบ MFM (ดูความพิการความผิดปกติของทารกในครรภ์) กลืนน้ำตาล 3 รอบค่ะ รอบแรก 50 g ไม่ผ่านสูงไป 240 ครั้งที่ 2 กลืน 100 g เจาะเลือด 4 เข็ม ผ่านทุกตัว ครั้งที่ 3 กลืน 50 g ตามอายุครรภ์ 28 วีค ผ่านค่ะ แม่อายุ 41 ปี ท้องแรก ไม่ได้ตรวจนีฟ ใช้วิธีเจาะเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรมค่ะ (ฟรี) ผลเสี่ยงต่ำ 😊 (แม่ดีใจมาก) และไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำค่ะ อยากจะบอกว่าแม่ๆท่านใดที่งบน้อยเหมือนแม่บ้านนี้ ต้องการเซฟค่าใช้จ่าย และไม่ได้ลำบากเรื่องเดินทางมากนัก ขอแนะนำเป็นอีก 1 ทางเลือกนะคะ ใครมีอะไรสงสัยหลังไมค์มาได้นะคะยินดีตอบทุกคำถามค่ะ

เราอายุ 41 ท้องแรก ครอบครัว 2 ฝ่ายไม่มีประวัติ เราเลยขอหมอเจาะเลือดแบบควอทเทสค่ะ ของ รพ. รัฐ ตรวจฟรีนะคะ เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นความแม่นยำ 80% ถ้าผลเสี่ยงต่ำก็ไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำค่ะ ถ้าผลเสี่ยงสูงหมอถึงจะส่งไปเจาะน้ำคร่ำค่ะ เราไม่ได้ตรวจนีฟตี้ค่ะ เรางบประมาณน้อยค่ะ #ท้องแรกคะ #อายุ41ปี #ทีมพค67

สวัสดีค่ะ แม่ๆท่านใดมีข้อมูลการเจาะน้ำคร่ำ รพ. รัฐ ใน กามบ้างคะ เจาะน้ำคร่ำ รพ. รัฐหรือปทุมธานี ค่ะ อยากทราบราคาแต่ละ รพ. ค่ะ ขอบคุณค่ะ #ท้องแรกคะ #อายุ41 #ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ #คุณแม่ๆช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

แม่ๆคิดว่าควรตรวจนีฟดีไหม หรือแค่เจาะน้ำคร่ำก็เพียงพอแล้วคะ แม่อายุ 41 ปีค่ะ