แชร์ประสบการณ์กึ่งคลอดธรรมชาติกึ่งผ่าคลอด แบบยาววมากกกกก
จริงๆคลอดตั้งแต่ 4 ธันวา 63 แล้วค่ะ แต่ไม่มีเวลามาแชร์ประสบการณ์เลย พอดีตอนนี้ว่างเพราะเจ้าตัวเล็กหลับ เลยจะมาเล่าประสบการณ์ท้องแรก คลอดครั้งแรกของเราให้แม่ๆอ่านกัน ยาวหน่อยนะคะ กะเล่าแบบละเอียดๆเลยให้คุณแม่ๆมือใหม่ได้เตรียมใจกัน 5555555 เริ่มต้นวันที่ 3 ธันวาค่ะ เราตกลงกับแฟนว่าจะไปจดทะเบียนสมรสกัน ก็โอเค แต่งตัว เตรียมเอกสารอะไรกัน ก่อนไปเราก็ขอเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่า มีมูกเลือดบนผ้าอนามัย ตอนนั้นคือตื่นเต้นเลย แต่รู้มาว่ามันเป็นอาการเริ่มแรกเฉยๆ เพราะก่อนหน้าเราไม่เคยปวดหลอก ปวดอะไรเลย ก็เลยไปจดทะเบียนที่อำเภอต่อ หลังจากนั้นก็เริ่มมีปวดหลอกบ้างระหว่างวัน แต่ก็ยังไม่คิดว่าจะคลอดเร็วๆนี้ เพราะที่ไปหาอ่านมาบางคนมีมูกเลือดเป็นอาทิตย์ เป็นเดือนก็มี เราก็แอบเบาใจ เพราะตอนนั้นเพิ่งได้ 38 วีคเอง จนตกดึก ตอนเที่ยงคืนนอนๆอยู่ ซักพักได้ยินเสียง โป๊ะ! แล้วน้ำคล่ำก็ไหลออกมาเลย แบบน้ำทะลัก รีบวิ่งไปบอกแม่ว่าน้ำคล่ำแตก บอกแฟนเก็บกระเป๋า จริงๆไม่คิดว่าประสบการณ์น้ำคล่ำแตกจะเกิดกับตัวเองแต่ก็เกิด 55555555 จากนั้นก้อไปโรงบาลเลยจ้าา ไปถึงเค้าก็ให้เรา เรานอนรอปากมดลูกเปิด ระหว่างนั้นอาการก็เริ่มมา ปวดบีบสม่ำเสมอ เจ้าตัวเล็กก็ยังดิ้นอยู่ตลอด น้ำคล่ำเราก็ไหลตลอด จากนั้นมันค่อยๆปวดขึ้นเรื่อยๆ บีบถี่ขึ้นๆ เจ็บมากขึ้นๆ เรานอนมองนาฬิกาตลอด เพราะไม่มีไรทำเลย ตี2ผ่านไป ตี3ผ่านไป พยาบาลก็วนมาดูบ้าง จนตี 4 เราแบบไม่ไหวละ เจ็บมาก จิกเตียง จับราว เจ็บแบบเจ็บที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เจ็บจนต้องร้องว่าโอ้ยออกมา ลมแบ่งก็มาละ ทีนี้หมอ พยาบาลก็มาล้อมเตียงเราเลยย บอกคุณแม่เบ่งได้เลยค่ะ เราก็แบ่ง ด้วยความที่แบ่งไม่เป็นเราก็ร้องแบบสุดเสียง โดนคุณหมอเอ็ดไปว่าไม่ให้ตะโกนแบบนั้น แบ่งไปหลายทีอยู่แต่ก็ไม่มีแววลูกจะโผล่หัวมาซักที เราก็เจ็บเน้อะ เพราะมันยังปวดอยู่แบบเดิม ไม่มีทีท่าจะหาย4้าลูกไม่โผล่มา หมอก็ล้วงๆเข้าไปหลายทีก็ไม่ว่าอะไร เราก็เบ่งต่อไปจนแบบเหมือนร่างกายเจ็บไม่ไหวละ ตอนนั้นไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาที แต่ในใจคือบอกลูกออกมาเถอะ ไม่นานหมอก็มาบอกว่า เหมือนลูกเรายังลงมาไม่ต่ำพอ บวกกับลูกหายใจแผ่วเป็นบางทีเพราะน้ำคร่ำเราแตกมา 4 ชม.แล้ว ถามว่า จะผ่ามั้ย ตอนนั้นเราตอบไม่คิดเลย ผ่าค่ะ คือไม่ไหวแล้วจริงๆ เอาฉันเข้าห้องผ่าเถอะ โปะยาสลบให้ฉันเถอะ จากนั้นหมอก็หายไป พยาบาลก็มาจัดการใส่สายฉี่ โกนขน ให้เราเซ็นเอกสาร เราก็ทำทุกอย่างแบบสติไม่ค่อยจะมีละ เพราะเจ็บมากๆ ในใจคิดแต่เมื่อไหร่จะได้ไป ลมแบ่งก็มาทุกที ไม่แบ่งก็ไม่ได้ เราก็แบ่ง จนคุณหมอมาคุณหมอก็บอกว่าคุณแม่ห้ามแบ่งแล้วนะคะ เดี๋ยวศรีษะลูกจะเบี้ยวได้ เราก็อ่าว โอเค กลั้นใจไม่แบ่ง(ยากมากบอกเลย แอบลักไก่เบ่งไปสองสามทีอยู่) จากนั้นพนักงานเปลก็มายกเรา เค้าก็เปลี่ยนมือกันไปมา ระหว่างนั้นก็ถามชื่อเราตลอด เหมือนเช็คว่ายังมีสติมั้ย เค้าก็เข็นเรามาจนถึงห้องผ่าตัด ตอนนั้นก็คือจำได้ว่าในห้องฝ่า พยาบาลเปิดเพลงป๊อปฟังชิวๆมาก คงให้รีแลคแหละ แต่จำเพลงไม่ได้ เค้าก็จัดการเอาผ้ามาคลุม นู้นนี้นั้น เราก็กลั้นเบ่งไป เจ็บไป ในใจก็แบบเอายาสลบมาโปะฉันเด่วนี้!!! จนนาทีสุดท้ายที่ที่พ่นยาสลบครอบหน้าเรา เราก็ยังกลั้นเบ่งลูกอยู่เลยย จากนั้นเราก็สลบไปเลยแบบงงๆ ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ลืมตามาอีกทีก็เห็นแสงไฟ เห็นห้องพัก เรา็๋ยังมึนๆยาอยู่ พอพยาบาลเห็นว่าเราฟื้นแล้วก็ถามชื่อ แล้วเรียกคนมาเข็นเราออกจากห้อง เข็นออกไปก็เจอแฟนกับแม่เราเข้ามาหา เราก็ยังมึนอยู่ พี่คนเข็นเปลก็บอกว่า อย่าเพิ่งลืมตานะครับเดี๋ยวจะอ้วก จบประโยคปุ๊ปเราอ้วกเลย ไม่ทันแล้ววว 5555555 แม่กับแฟนก็พูดให้ฟังใหญ่ว่าเห็นลูกละนะ อะไรงี้ จากนั้นเราก็มาถึงห้องพักค่ะ ยังไม่เจอลูก ในใจคืออยากเจอลูกแล้ว คุยกับแม่กับแฟนซักพักพยาบาลก็มาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาลูกมาให้กินนมคุณแม่นะคะ ซักแปปพยาบาลก็เข็นลูกเข้ามาพร้อมกับอุ้มมาวางไว้ข้างๆเรา เราไม่ได้ร้องไห้เลย เรารู้สึกเหมือนว่านี้ลูกเราจริงๆหรอ อั่ยต้าวที่อยู่ในอ้อมกอดคือลูกเรา ส่วนทางลูกหลังจากเราจัดท่านอนตะแคงแบบทุลักทุเลเพราะเจ็บแผลมากกกก ลูกเราก็ดูดนมใหญ่เลย น่าเอ็นดูมากๆ มาส่วนเรื่องการพักฟื้นของการผ่าคลอดนะคะ วันแรกคือเรียกได้ว่าเจ็บจริงๆ เจ็บแผลผ่าคลอดไม่พอ อีท่อที่เสียบให้เราฉี่นี้ก็ทำให้เราขยับตัวลำบากสุดๆ วันที่สองก็ยังเจ็บแผลอยู่ แต่พยายามขยับตัวให้มากขึ้น เพราะไม่อยากอยู่นานค่าห้องแพง 555555 ส่วนทางลูกเราตัวเหลืองค่ะเพราะคลอดก่อนกำหนดแต่ไม่มากนะ ประมาณ 12 13 ก็ต้องเข้าตู่อบ ของเราเค้ายกไฟมาให้ที่ห้องเลย ในช่วง 2 3 วันที่เราพักฟื้นแฟนเราก็ต้องเป็นคนเลี้ยงลูกซะส่วนใหญ่เลยค่ะ เพราะว่าน้ำนมเรายังไม่มา มาน้อยมากกกก ต้องให้นมเสริมทุก3ชม. แฟนเราก็ทำหน้าที่ป้อนนมลูกไปสิ ส่วนเราก็ปวดแผลไปสิ ไอที จามที หัวเราะทีคือเจ็บแผลลล วันที่ 3 เราได้ถอดสายฉี่ ดีใจที่สุดในชีวิตเพราะมันรุงรังมากกกกก เจ็บแบบหน่วงๆด้วยเวลาเราขยับ ตอนพยาบาลดึงออกมห้ก็ลุ้นมากเช่นกัน เจ็บมั้ย ก็ไม่ขนาดนั้น วันที่4 เราเดินได้แล้วค่ะ ลุกเอง นั่งเอง อะไรได้หมดและ แต่ก็ยังไม่ได้่ได้ออกโรงบาลเพราะค่าตัวเจ้าตัวเล็กยังไม่ลดซักที (เพราะแม่กับยายมัวสงสารลูกจะหนาวไม่ยอมถอดเสื้อให้โดนไฟ จนโดนพยาบาลด่า T__T) วันที่ 5 ตอนเช้าหมอก็มาตลอดและบอกว่าจะได้ออกจากโรงบาลแล้ว เย้!!! บ่ายโมงเราก็เก็บของกลับบ้านค่ะ ส่วนไอ่ตัวเล็กก็หลับตลอดทางเล้ย ถึงบ้ายก็ยังหลับไม่ตื่น 55555555 จบแล้วคับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณแม่มือมหม่อย่างเราๆนะคะ #ท้องแรกคะ #ลูกคนแรก
Đọc thêm