ลูกใครมักพูด.. "ไม่ได้นะ แม่คนเดียว" บ้างคะ
เจอแบบนี้กันบ้างมั้ยคะ เวลาลูกเล่นหรือมีกิจวัตรประจำวัน อย่างเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ แต่งตัว พอจะมีคนอื่นในบ้านเข้าไปช่วย ลูกมักจะพูดคำว่า "ไม่ได้นะ มะม้าทำ.../ช่วยได้คนเดียว" พออธิบายว่า น้า.. /ป้า.. /ยาย ก็ช่วยทำได้ ลูกก็ยังปฏิเสธ บางครั้งมาทั้งโบกมือไม่ได้ๆ บ้างครั้งก็ร้องไห้โวยวาย คุณแม่เจอแบบนี้แล้ว ทำยังไงกันบ้างคะ #ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ #ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
Đọc thêmอาการแพ้ท้องช่วงแรก มีใครเป็นเหมือนแม่มั้ย
เรื่องเล่า "คนท้อง" ประสบการณ์ตรงที่ยากจะลืม.. ... ตอนเรียนก็รู้ว่า คนท้องจะต้องมี#อาการแพ้ และส่วนมากจะเป็นช่วง 3 เดือนแรก และเห็นคนที่ท้องเค้าก็ดูแฮปปี้ดี ถึงเวลาที่เจอเข้าจริงๆ อยากจะบอกว่า... กว่าจะผ่านช่วงแพ้ท้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราเลยย 😭 น้ำหนักหายไป 5 กก.😢 น่องปูดๆ หายกลายเป็นขาเรียวเล็กเยี่ยงนางแบบ ออกจากบ้านไม่ได้เป็นเดือนๆ (คนท้องที่ไม่ค่อยแพ้ถือว่าแม่โชคดีมาก แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องปลอดภัยสำหรับลูกเท่าไร เพราะตำราบอกว่าถ้าฮอร์โมนไม่สูงมาก อาการแพ้ก็จะน้อย และเสี่ยงแท้งได้ง่าย) ... ตอนไม่ท้อง ก็อยากท้อง ก็อายุไม่น้อยแล้ว คิดว่าถ้าจะแต่งงานจะต้องท้องให้ได้ก่อนจัดงานแต่ง เพราะจะได้เป็นเครื่องยืนยันว่าแต่งแล้วเราจะมีลูก ไม่ต้องเสียเงินไปทำ ก็ทุกวันนี้คนเราแต่งงานช้าด้วยเหตุผลร้อยแปด และมีลูกยากมากขึ้นนี่นา 😅😅 มาต่อ...กัน เริ่มจาก วันที่ 22 หลังจากประจำเดือนวันแรกของเดือนก่อน (ปกติรอบเดือนเราจะมา 25-26วันครั้ง) เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง ที่ปกติมีน้อยมาก ท้องน้อยเริ่มยื่น แบบแขม่วไม่มิด และเริ่มรู้สึกปวดท้องน้อย เหมือนจะมีประจำเดือน 🙄 แต่ก็ยังรู้สึกว่าเตือนเร็วไป เป็นอยู่ทุกวันจน 5 วันต่อมา มันเลยวันที่เจ้า ปจด. ต้องมาแล้วสิ เลยลองตรวจปัสสาวะดู ผ่านไปไม่ถึง 1 นาที ขีดก็เริ่มปรากฏเป็น 2 ขีดจ้า แต่ก็ยังไม่มั่นใจ อาทิตย์ต่อมาต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่คลินิกพอดีเลยขออาจารย์หมอตรวจ Ultrasound ดู ปรากฏว่า เห็น....จ้า เห็นเป็นโพรงดำๆ เล็กๆ แต่ยังไม่เห็นจุดชัด (ปกติคนท้องถ้า U/S จะเห็นจุดในโพรงมดลูกก่อน ตามมาด้วยก้อน แล้วจึงเห็นตัวทารกน้อยเมื่ออายุครรภ์ค่อยๆเพิ่มขึ้น) อาจารย์เลยนัดตรวจใหม่อีก 1 สัปดาห์ จากนั้นก็เห็นเป็น Sac และจุดจางๆ และก็ไปตรวจอีกก็เป็นการย้ำชัดว่า ท้องจริงๆ ไม่นอกมดลูกตามที่แอบกลัว พอเริ่มย้ำชัดเท่านั้นล่ะ อาการแพ้ท้องก็เริ่มมาจ้า เริ่มจากรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ เบื่ออาหารมาก ไม่มีความอยากกินอะไรเลยทุกวัน และปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆ ช่วงเย็นทุกวัน จากนั้นสัก 1 สัปดาห์ เริ่มเป็นมากขึ้น จากคนที่อาเจียนไม่เป็น ก็อาเจียนทุกวันวันละ 1-3 รอบแล้วแต่ การรับกลิ่นและรสเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มรับกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ กลิ่นอาหาร กลิ่นข้าวสวยที่หุงเสร็จใหม่ๆ ก็เหม็น กลิ่นเปิดตู้เย็น กลิ่นเศษอาหาร กลิ่นมาม่าก๋วยเตี๋ยวนี่แทบทนไม่ได้ อยู่ระยะ 5 เมตรก็ได้กลิ่น ต้องหลบไปอยู่ในห้องนอน การรับรสก็เริ่มไวต่อรสเผ็ด นิดเดียวก็ไม่ได้ การย่อยก็แย่มาก ท้องอืดแน่นท้องมากทุกวัน ทั้งที่กินแค่วันละมื้อ ของทุกอย่างที่เคยชอบ กินไม่ได้เลยย (เปิดทุกเว็บดูอาหารที่กินแล้วลดท้องอืด ลดคลื่นไส้ ไม่ได้ผล ขนาดฉีดยาแก้อาเจียนยังไม่ช่วย) 🤮🤢😒 #การปรับตัวในช่วงนั้น เริ่มจาก... ต้องเลี่ยงของที่เพิ่มแก็ส และที่ย่อยยากทุกชนิด เพราะไม่งั้นจะนอนไม่ได้ และพยายามกินอาหารที่ให้พลังงานเยอะๆ ไม่ต้องสนว่าครบ 5 หมู่มั้ย เอาแค่ให้พลังงานพอ และที่สำคัญยาบำรุงเพื่อลูกอย่าให้ขาดถึงจะกินอะไรไม่ได้ แต่ยาแม่ต้องกินให้ได้ ท่องอย่างเดียวว่า... เพื่อลูก ตื่นเช้ามา หาขนมรองท้องก่อนลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวให้ตรงเวลา (ซึ่งเรากินได้แค่วันละมื้อและต้องไม่เผ็ด แบบติดหวานเลยด้วยซ้ำ) เตรียมขนม ของว่าง น้ำหวาน นมรสหวานน้ำเปล่าไว้ใกล้ตัว กินได้ไม่ได้อีกเรื่อง ขออุ่นใจไว้ก่อน ตอนสาย-ค่ำที่เริ่มเวียนหัว คลื่นไส้ ก็นอนหลับตาไป เปิดเพลงเบาๆ กล่อมตัวเอง จิบน้ำไป ถ้าเริ่มหิวก็ฟาดขนมใกล้ที่เห็นแล้วไม่อยากอ้วกใส่ปากบ้าง ราวๆ 1 เดือน ก็เริ่มดีขึ้น เริ่มกินได้ 2 มื้อหลักแบบ portion เล็กๆ กินจุบจิบเกือบทุก 2 ชั่วโมง ไม่ปล่อยให้ท้องหิว แต่อาการจมูกไวยังคงอยู่ กลิ่นไหนไม่ชอบและวันไหนรู้สึกแน่นท้องมีอ้วกกก 🤮🤮เหมือนเดิม วันนี้เท่านี้พอ ไว้เล่าอาการอื่นๆ ต่อ #เรื่องเล่าคนท้อง #ไว้เปิดให้ลูกอ่าน
Đọc thêm