ขอรีวิวคลอดแบบธรรมชาติ
ขอรีวิวคลอดแบบธรรมชาติหน่อยค่ะแม่ๆบ้านนี้ใกล้แล้วตื่นเต้นมากท้องแรก
บันทึกความทรงจำ คลอดน้องกันต์ ด.ช.ณัฏฐกิตติ์ ฤทธิ์ล้ำ วันที่ 17 ม.ค.2566 (วันสังเกตุการณ์และรอคลอด) หมอนัดให้ Admid รพ.แม่และเด็ก เพื่อสังเกตุอาการเตรียมคลอด 14:00 น. ตรวจ ATK ของคุณแม่และคุณพ่อเพื่อทำบัตรเฝ้าไข้ 15:00 น. เข้าห้องพัก พิเศษ 413 15:30 น. จนท.เอาข้าวมื้อแรกของการนอน รพ.มาให้มีต้มยาจีนเยื่อไผ่กระดูกหมู ผัดขิง นักเก็ตและสาลี่ อาหารมื้อนี้อร่อยมากๆ 21:00 น. หมอมาตรวจปากมดลูก เปิด 1 ซม. 22:00 น. สั่งข้าวต้มมากิน เพราะหลังเที่ยงคืนต้องงดข้าวงดน้ำเพื่อเตรียมคลอด หลังจากนั้นนอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะแปลกที่ และนาฬิกาก็ปลุกตอน 05.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค.2566 วันที่ 18 ม.ค.2566 05:00 น. นาฬิกาปลุก 05:15 น. อาบน้ำแต่งตัว 06:45 น. จนท.มารับไปห้องรอคลอด 07:00 น. ตรวจปากมดลูกเปิด 1 ซม. 07:25 น. ให้ยาเร่งคลอด 09:00 น. หมอตรวจปากมดลูก เปิด 2 ซม. และเจาะน้ำคร่ำ 09:15 น. เริ่มปวดท้องนิดๆ 10:00 น. ปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ พยาบาลไม่ให้ไป ให้ฉี่ใส่กระโถน 11:00 น. ปากมดลูกก็ยังเปิด 2 ซม. ตอนนี้ปวดท้องถี่ขึ้น ท้องแข็งทุก 3-5 นาที พยาบาลมาฉีดยาแก้ปวดให้ 1 เข็ม ก็ยังรู้สึกปวดท้องเหมือนเดิม เหมือนยาไม่ช่วยอะไรเลย 12:30 น. ปากมดลูกเปิด 3 ซม. หมอให้เข้าห้องน้ำเปลี่ยนผ้าอนามัย ปวดท้องมากตอนนี้เดินแล้วหน่วงมากๆ 13:30 น. หมอตรวจปากมดลูกเปิด 4 ซม. และให้ย้ายเข้าไปในห้องคลอด 14:30 น. หมอมาตรวจปากมดลูกเปิด 4 ซม. เหมือนเดิม และหมอสังเกตุเห็นว่ายาเร่งคลอดไม่ได้เปิด เพราะย้ายมาจากอีกห้องพยาบาลลืมเปิดให้น้ำเกลือไหล และฉีดยาแก้ปวดให้อีก 1 เข็ม 15:00 น. หมอมาดู ปากมดลูกเปิด 6 ซม. ตอนนี้เจ็บท้องมาก เจ็บถี่มากได้แต่นอนบิดไปมา ปวดหน่วงเหมือนมดลูกจะแตกให้ได้เลย 16:00 น. หมอตรวจปากมดลูกเปิด 7 ซม. หมอถามอยากเบ่งคลอดรึยัง เราตอบอยากค่ะ หมอและพยาบาลเลยเตรียมเครื่องมือกันด้วยความรวดเร็ว ให้ขึ้นขาหยั่ง แล้วให้เบ่ง ครั้งที่ 1 ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รู้สึกหน่วงๆ เหมือนหัวลูกจะออกมาแล้ว เบ่งครั้งที่ 2 พยาบาลขึ้นมาบนเตียง กดท้อง ช่วยให้เราเบ่ง 16:19 น. (เวลาคลอด)เบ่งครั้งที่ 3 หลุดออกมาเลย คือตอนนั้นโล่งมาก มันมึนไปหมด ตาลาย หมอเอาลูกมาวางบนอก แต่ก็จำหน้าไม่ได้นะ ณ ตอนนั้น เวียนหัวมาก แล้วหมอก็เอาน้องไปทำความสะอาด เรามองนาฬิกาตรงผนัง ตอนที่น้องคลอดออกมา 16:19 น. น้องหนัก 2,920 กรัม สูง 49 ซ.ม. เพศชาย หลังจากนั้น หมอทำอะไรต่อ จำไม่ได้ เพราะภาพตัด 17:25 น. ตื่นมาพร้อมอาการเวียนหัว และมองหาลูกน้อย หันไปข้างๆ มีน้องอีกคนนอนอยู่ แต่มีม่านกั้น 17:45 น. ถามพยาบาล ว่าออกไปห้องพักได้ยัง พยาบาลตอบ ว่ารอครบ 2 ชม.ก่อน เราก็นอนต่อ 18:10 น. พยาบาลถามเรา ว่าหิวมั้ย เอาข้าวมาให้กิน แต่เมนูตอนนั้น ข้ามต้มปลาหมึก คือเหม็นคาวมาก มองไปข้างหน้า มีรก 2 อันวางอยู่ แดงมากๆ เลยกินไม่ลง 18:20 น. จนท.เอารถเข็นมารับ จะพากลับห้อง พอเราลุกขึ้นได้ อ้วกพุ่ง เวียนหัวหน้ามืดมาก แต่แข็งใจ ขอกลับห้อง หลังจากถึงห้องอ้วกต่อ จนโล่ง และพยาบาลเอาลูกมาส่ง ทันทีที่ได้เห็นลูกชาย คืออาการเจ็บปวด เวียนหัว หายไปหมด มีแต่ความสุข และหันไปมองพ่อเค้า ยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นลูกชาย คือวินาทีที่มีความสุขมากๆ ในคืนแรกที่ลูกเกิด ด้วยความที่เห็นลูกกินนมแล้วหลับง่าย ก็ไม่คิดอะไรยอมให้ลูกนอน เราก็นอนด้วยส่งผลให้ตอนเช้าชั่งน้ำหนักลูกแล้วลดลง 19 ม.ค.2566 วันแรกของการเป็นคุณพ่อคุณแม่เต็มตัว 06:00 น. พยาบาลโทรตามให้เอาลูกไปชั่งน้ำหนัก น้องกันต์ชั่งได้ 2,830 กรัม น้ำหนักลดลง แต่พยาบาลแจ้งว่า เป็นเรื่องปกติของทารกแรกเกิด 08:30 น. พยาบาลมาสอนสระผมให้ลูกชาย แม่สระผมให้ร้องลั่นเลย สระผมเสร็จ หัวฟู ไม่มีหวี เลยส่งรูปน้องให้พี่สาวเค้าดู พี่สาวรักน้องสั่งหวีขนแกะให้น้องอย่างเร่งด่วน 555 09:00 น. พยาบาลนำน้องไปฉีดวัคซีน 2 เข็ม ตรงหัวไหล่ และตรงหน้าขา แต่แม่จำไม่ได้ว่าวัคซีนอะไรบ้าง 13:00 น. คุณพ่อไปดำเนินการแจ้งเกิดลูกชาย ไปกับคุณตา โดยให้ชื่อว่า ด.ช.ณัฏฐกิตติ์ ฤทธิ์ล้ำ ซึ่งชื่อลูกแปลว่า เกียรติของนักปราชญ์ 15:00 คุณตาพาคุณพ่อไปเปิดบัญชีธนาคารออมสิน โดยให้เปิดเป็นบัญชีออมทรัพย์ ชื่อพ่อเพื่อเด็กชายณัฏฐกิตติ์ ฤทธิ์ล้ำ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ขอบคุณครับคุณตา 16:00 น. คุณพ่อกลับมาและช่วยคุณแม่เลี้ยงลูกต่อ หลังจากนั้นก็กินนม อึ ฉี่ เป็นแบบนี้วนไปทั้งคืนจนถึงเช้า ลูกกินนมนิดนึงแล้วหลับต่อ พ่อกับแม่ก็รีบหลับบ้างตามลูก 20 ม.ค.2566 06:00 น. พยาบาลโทรตามให้ไปชั่ง น้ำหนักลูก ปรากฎว่า น้ำหนักเหลือแค่ 2,710 กรัม น้ำหนักลดอีกแล้ว อะไรเนี่ย แต่พยาบาลก็บอก ว่าปกติ 08:40 น. พยาบาลมาสอนอาบน้ำลูก และทำความสะอาดสะดือ พอเอาลงกะละมังเท่านั้นล่ะ ร้องจ้ากเลย แม่ก็รีบอาบด้วยความสงสาร กลัวหลุดมือก็กลัว เงอะๆ เงิ่นๆ กับพ่อสองคน ขำแต่ก็มีความสุข 15:00 น. เจ้าหน้าที่มานวดเต้านม เพื่อกระตุ้นน้ำนม เพราะหมอตรวจแล้ว เห็นว่าแม่น้ำนมไม่เพียงพอจึงให้นวดกระตุ้นน้ำนม หลังจากนั้น ทั้งวัน เหมือนเดิม เอาลูกเข้าเต้าเมื่อลูกร้อง ลูกนอนเราก็พักผ่อน เป็นแบบนี้ถึงเช้า ไม่ได้กำหนดเวลาว่าลูกจะตื่นตอนไหน กินเยอะหรือกินน้อย 21 ม.ค.2566 (วันที่คิดว่าจะได้กลับบ้าน) 06:00 น. พยาบาลโทรตามให้เอาน้องไปชั่งน้ำหนัก สรุป วันนี้น้ำหนักเหลือ 2,640 กรัม โอ้ย น้ำหนักลดอีกแล้ว และพยาบาลบอกแม่ว่า น้องอาจจะตัวเหลือง พยาบาลเจาะเลือดไปตรวจ ค่าตัวเหลือง และโรค G6PD 09:00 น. คุณหมอเด็ก เดินมาแจ้ง ว่าไม่ได้กลับบ้านนะครับวันนี้ เพราะน้องมีค่าตัวเหลือง 16.4 ซึ่งเกินเกณฑ์ น้องต้องอยู่ รพ.ต่อ และส่องไฟสีฟ้า ปิดตาเข้าตู้อบ ต้องส่องไฟให้ได้ประมาณ 20 ชั่วโมง 09:30 น. พยาบาลมาปิดตาให้น้อง และมีเจ้าหน้าที่เข็นตู้ฟ้าเข้ามาในห้อง และสอนวิธีใช้งานให้กับคุณพ่อคุณแม่ และภารกิจของพ่อและแม่ตลอดทั้งวัน คือเอาลูกกินนมให้พอ ปลุกลูกทุก 2-3 ชม.เพื่อให้ตื่นมากินนม แต่ลูกดูดนมจากเต้าแม่ไม่ค่อยได้ แม่เลยปั้มใส่ขวดไว้ให้ลูกกินทุกมื้อ โดยปั้มนมครั้งแรกของแม่ได้น้ำนมแค่ออนซ์เดียว แต่หลังจากนวดนมแล้ว แม่ก็รู้สึกคัดเต้า และนมแข็งเป็นก้อนๆ เหมือนน้ำนมอุดตัน แต่แม่ไม่ได้ปั้มนมตลอด เพราะไม่รู้ เลยรู้สึกเจ็บนมมากๆ ต้องเข้าไปบีบน้ำนมออกในห้องน้ำ 19:00 น. แม่ลองปั้มนมอีกครั้ง ครั่งนี้ได้เป็น 3 ออนซ์ ได้ข้างละ 1.5 ออนซ์ แม่รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลย และแม่ตื่นมาปั้มนมทุก 3 ชม.ลูกก็กินนมแล้วเข้าตู้ฟ้า แต่คืนนี้ลูกไม่ชินกับการนอนตู้ฟ้า เพราะต้องแก้ผ้า ใส่แค่แพมเพิส และถุงมือถุงเท้า ปิดตาด้วยผ้าก๊อซ ส่องไฟ 2 ชั้น ที่อุณหภูมิ 33 องศา ต้องแบกต้องอุ้มจนกว่าจะหลับ ถึงเอาลงนอนตู้ได้ เป็นอะไรที่ทรมานพ่อแม่สุดๆ แล้วคืนนี้ก็ผ่านไป 22 ม.ค.2566 06:00 น. พยาบาลโทรมาตามให้พาน้องไปชั่งน้ำหนักวันนี้น้ำหนักขึ้นมาเป็น 2,740 กรัม เจาะเลือดตรวจตัวเหลือง 08:40 น. อาบน้ำน้ำสระผม รอหมอเด็กมาตรวจ 09:30 น. หมอมาตรวจแจ้งว่าผลตัวเหลืองลดลงแต่ให้นอน รพ.ต่ออีก 1 คืน เพื่อส่องไฟอีก ให้แน่ใจว่าตัวจะไม่เหลืองอีก หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ป้อนนมทุกๆ 2-3 ชม. แล้วนำเข้าตู้ฟ้า ส่องไฟ 1 ชั้น วันนี้ดีหน่อย ใช้ผ้าปูรองนอน น้องกันเลยไม่งอแง ยอมนอนตู้ฟ้าอย่างมีความสุข 23 ม.ค.2566 06:00 น. วันนี้ไม่ต้องโทรตาม คุณพ่อเข็นลูกไปให้พยาบาล วันนี้น้ำหนักขึ้นมาเป็น 2,800 กรัม เจาะเลือดตรวจตัวเหลือง 09:30 น. หมอมาตรวจและบอกว่าค่าตัวเหลืองน้องอยู่ที่ 11.6 สามารถกลับบ้านได้ พ่อกับแม่ดีใจมากพ่อเก็บของใช้ เก็บไปบ่นไป หาว่าแม่ขนมาเยอะแยะ555 11:00 น. ออกจาก รพ. หมายเหตุ : เวลาที่ลง คือเวลาโดยประมาณ #น้องกันต์ 18 ม.ค.2566 16:19 น. ปีเถาะ #วันกองทัพไทย #บันทึกการเกิด #แม่
Đọc thêmสบายๆ ค่ะ เจ็บท้องมีมูกออกตั้งแต่ตี2 เจ็บทุก 10 นาทีแต่เป็นเจ็บที่ทนไหว พอตี5 เจ็บถี่ขึ้นทุกๆ 5 นาทีแต่ยังทนไหว แฟนตื่นเต้นอยากเจอลูก 8โมงพาไป รพ. ปากมดลูกเปิด 4 เซน นอนรอให้เปิดครบ 10 เซนแบบชิวๆ 11.45 น. เริ่มปวดถี่ขึ้นทุกๆ 3 นาที 13.30 เริ่มปวดแบบไม่ไหวหมอให้ยาแก้ปวดเผลอหลับไปปวดเบ่งอีกทีตอน 14.30น. พยายาลพาเข้าห้องคลอดเบ่ง 3 ครั้งรอบแรกเรายังไม่มีแรงเบ่งเพราะยังไม่ทันหายใจเข้าหมอให้เบ่ง รอบสองเบ่งอีกหมอบอกหัวน้องออกแล้ว รอบสามเบ่งอีกทีเบ่งแบบยาวๆ น้องออก ลืมบอกตอนกรีดช่องคลอดไม่เจ็บหมอฉีดยาให้ก่อน ตอนเย็บแผลฝีเย็บไม่เจ็บหมอฉีดยาให้อีก เจ็บแค่ตอนรอมดลูกเปิดค่ะ สู้ๆ นะแม่คลอดธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นกำลังใจให้นะคะ
Đọc thêmบ้านนี้เริ่มมีมูกเลือดออกวันที่21วันที่22 4โมงเย็นแอดมิทเพราะปากมดลูกเปิด2เซนแต่ไม่มีอาการปวดท้องใดๆเลย พอวันที่23ช่วง5ทุ่มเริ่มเจ็บท้องแต่ไม่ได้เจ็บมาก เริ่มเจ็บมากช่วงตี3ของวันที่24ปากมดลูกเปิด3เซน ตี4เปิด4เซน ตี5กว่าเปิด9เซน เข้าห้องคลอด น้องคลอดตอน06:06 เป็นความเจ็บปวดที่งดงามจริงๆค่ะ(เรากลัวเกินไปรีบไป รพ รู้งี้ไปตอนที่เริ่มเจ็บท้องยังทันค่ะ)
Đọc thêmถ้าคลอด รพ รัฐ ไม่ต้องตื่นเต้นค่ะ มีคนนอนรอคลอดเหมือนกันหลายคน ความเจ็บจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปากมดลูกเปิดกว้างเท่าไหร่ ความเจ็บก็เพิ่มตามค่ะแม่ ถ้าเราใกล้จะคลอดจริงๆ เดี๋ยวความเจ็บจะชวนเราเบ่งเองค่ะแม่ สู้ๆนะคะ ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เห็นหน้าลูกแม่จะลืมความเจ็บไปเองค่ะ🤣
โดนกวาดมดลูก มดลูกเริ่มเปิด เปิดแล้วจะปวดบีบ มันเจ็บกว่าตอนคลอดอีก เพราะคลอดแค่อารมณ์เหมือนพยายามอึ แต่อึไม่ออก ต้องเบ่ง จนหมดแรง ปวดแขน ปวดตูด😅 พอลูกกินนม หัวนมเริ่มแตก เดือนหนึ่งเริ่มปวดหัวนมเพราะน้ำนมจะไหล เวลาลูกไม่ได้ดูด หรือลูกหลับ ร้อนใน นอนน้อย นอนไม่หลับ พอหลับไม่อยากตื่น 😅
ถ้าถามว่าหนักสุดตอนไหนคือตอนปากมดลูกยิ่งเปิดกว้างมันจะเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ กับส่วนตัวตอนหัวน้องคลอดออกมาแล้วพยาบาลบอกห้ามเบ่งนะ! อันนี้คือทั้งปวดทั้งขัดใจ😂เพราะร่างกายมันจะให้เราเบ่ง สุดท้ายคือเย็บแผลค่ะเราว่าเจ็บกว่าคลอดอีก
พอน้องคลอดทุกอย่างหายเจ็บหมดเลยค่ะ สู้ๆนะคะเดี่ยวก็ได้เจอน้องแล้ว✌🏻✌🏻
ทรมาณแค่ตอนรอปากมดลูกเปิดจริงๆค่ะ แต่เอาจริงๆการคลอดธรรมชาติมันไม่ได้แย่แบบที่เราคิด หรือตามภาพที่เราเห็นมาเลยนะคะ สุดท้ายแล้วเราจะอึ้งมากว่าร่างกายเราสามารถทำได้ขนาดนี้เลยหรอ สุดยอดมาก555 พอลูกออกมาคือสบายตัวและโล่งมากๆค่ะ
หลังคลอดน้ำเกลือหมดหนึ่งถุงเดินได้สบาย แค่ต้องทนตอนปากมดลูกกำลังเปิดนิดนึงเพราะมันอาจจะปวดแบบท้องเสียบวกปวดปจดรวมกัน แต่เชื่อเถอะแม่ มันไม่ปวดจนเราทนไม่ได้หรอก ถ้าลูกออกแล้วคือโล่งมาก ชิวๆเลย บ้านนี้โชคดีไม่มีแผลหลังคลอด
บ้านนี้น้ำคร่ำแตกตอนมดลูกเปิด5เซน กว่าจะได้10เซนปวดมากค่ะ พยายามเกร็งสู้แต่อยู่ดีๆมันเบ่งเองหัวน้องจ่อปากมดลูกเลยได้วิ่งเข้าห้องคลอด เบ่งไม่กี่ทีน้องก็ออก รู้สึกโชคดีมากเลยค่ะเป็นการคลอดธรรมชาติแบบนอมอลไม่มีแผลหลังคลอด
เราโดนยาเร่งคลอดคะ เจ็บมากนอนรอปากมดลูกเปิดคือเดินไม่หยุด ปวดทีเเ้ทบร้องรออยู่3 ชม คลอด เบ่งนานพอควรน้องตัวโต หัวโผ่เเต่ติดไหล่ มีพยาบาลอีกคนมาขย่มท้องช่วยอีก พอคลอดเสร็จคือโล่งมาก อาการทุกอย่างหายหมด
กำลังจะมีลูก