Fateema Jangrusuk profile icon
Kim cươngKim cương

Fateema Jangrusuk, Thailand

ผู้ใช้งาน

Giới thiệu Fateema Jangrusuk

คุณแม่ของฮัยกัล

Bài đăng(10)
Trả lời(84)
Bài viết(0)

แชร์ประสบการณ์เด็กป่วย RSV

บันทึกเด็กป่วย RSV เริ่มป่วย 25-11-2019 เริ่มมีน้ำมูกและไอนิดหน่อย 27-11-2019 ไอเยอะขึ้น เลยพาไปหาหมอ คุณหมอบอกเป็นหวัดธรรมดา ให้ยามากิน 29-11-2019 หาหมออีกรอบ เนื่องจากเด็กไม่ยอมกินยาที่หมอให้ กินแล้วอ้วก ไม่ได้อ้วกเฉพาะยา แต่อ้วกทุกอย่างที่เคยกินเข้าไปออกมาหมด แถมล้างจมูกให้ทีนึงก็ร้องงอแงไป 3 ชม. คุณหมอบอกว่าเริ่มหายใจครืดคราดเลยโดนพ่นยาและหมอเปลี่ยนยากินให้ใหม่ด้วย หมอนัดดูอาการวันที่ 1-12-2019 แอดมิท 30-11-2019 ต้องไปหาหมอก่อนวันนัด เนื่องจากอาการเด็กไม่ดีขึ้น ยาก็กินไม่ได้เหมือนเดิม แถมถ่ายท้อง หายใจเริ่มหอบและมีไข้ หมอเลยให้แอดมิท ตรวจเลือด เอกซ์เรย์ปอด สรุปว่าติดเชื้อ RSV ทำให้หลอดลมอักเสบ ปล. พี่พยาบาลมาเช็ดตัวให้ เด็กก็อึราดใส่กางเกงพี่เค้าเลยครับ 1-12-2019 ต้องพ่นยาทุก 4 ชม. เคาะปอด ดูดเสมหะ วันละ 1 ครั้ง ยังมีไข้ และถ่ายท้อง เด็กนอนซมเลย พี่พยาบาลต้องมาเช็ดตัวให้เรื่อยๆ เริ่มชินกับการกินยาแล้ว ช่วงเย็นๆพี่พยาบาลก็พาไปล้างจมูก 2-12-2019 คุณหมอบอกอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ หายใจดีขึ้น แต่อยากให้นอนดูอาการอีกสักวัน เด็กเริ่มซนได้แล้ว (วันนี้ก็ยังคงพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ และล้างจมูก) 3-12-2019 พ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ เสร็จ คุณหมอเข้ามาดูอาการบอกว่าดีขึ้นแล้ว จะกลับบ้านก็ได้ แต่ก็ต้องนัดดูอาการต่อ เราเลือกกลับบ้านเลยเพราะเด็กซนมาก คลานไปมาจนสายน้ำเกลือหลุด ก่อนกลับก็พ่นยาอีกหนึ่งรอบ ปล. ช่วงนอน รพ. หมอให้นอนในกล่องออกซิเจน จะได้หายใจสะดวก ติดตามอาการ 5-12-2019 หมอนัดดูอาการ หายใจครืดคราด เสมหะยังเยอะอยู่ ต้องพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ 6-12-2019 หมอนัดดูอาการ ยังมีหายใจครืดคราดนิดหน่อย เสมหะน้อยลงแล้ว แต่ยังให้พ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ 9-12-2019 (วันนี้)​ คุณหมอบอกว่าเด็กหายใจปกติ ไม่มีเสียงครืดคราดแล้ว หายดีแล้วครับ ปล.คุณหมอบอกว่าพยายามอย่าให้ป่วยอีกในช่วงก่อนขวบนึง เพราะถ้าเคยติดเชื้อ RSV แล้ว ถ้าป่วยอีกจะทำให้ลงปอดเร็ว #Haikal8Months25Days

Đọc thêm
แชร์ประสบการณ์เด็กป่วย RSV
 profile icon
Viết phản hồi

แชร์ประสบการณ์การใช้ถุงเก็บน้ำนม 3 in 1 ของ Lamoon Baby

รีวิวถุงเก็บน้ำนม 3 in 1 จาก Lamoon Baby ดีงาม เหมาะกับการเดินทาง ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ====================================== #ถุงเก็บน้ำนม3in1 แทนขวดนมให้ลูกน้อย ในวันที่ต้องเดินทาง สะดวกใช้งานง่าย ไม่ต้องล้างขวดนม ไม่ต้องพกขวดไปเยอะ เอาไปแค่จุกนม ?? ?Step 1 #ใช้แทนขวดปั๊มนม ต่อถุงน้ำนม 3 in 1 เข้ากับข้อต่อ Adapter และนำไปต่อกับหัวปั๊มเครื่องปั๊มนม ปั๊มนมใส่ถุงน้ำนม 3 in 1 ได้เลยทันที ไม่ต้องพกขวดปั๊มนม ประหยัดเวลาล้างเก็บ และลดพื้นที่จัดเก็บได้ดี๊ดี ?Step 2 #เก็บนมเข้าฟรีซได้ทันที เมื่อปั๊มนมใส่ถุง 3 in 1 เสร็จ สามารถนำไปเก็บแช่ตู้เย็นได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเทใส่ถุงเก็บน้ำนมอีกรอบ สะดวกสบาย ประหยัดเวลา ไม่ต้องกลัวนมหกเลอะเทอะ #ลดการปนเปื้อน . ?Step 3 #ใช้แทนขวดน้ำนมลูก เมื่อถึงเวลาที่ลูกน้อยหิวก็นำถุงน้ำนม 3 in 1 ที่แช่เย็นหรือฟรีซไว้มาอุ่นให้ลูกทานได้ทันที เพียงต่อจุกนมลูกเข้ากับข้อต่อ Adapter และต่อเข้ากับถุงน้ำนม 3 in 1 #LamoonBaby

Đọc thêm
แชร์ประสบการณ์การใช้ถุงเก็บน้ำนม 3 in 1 ของ Lamoon Baby
 profile icon
Viết phản hồi

แชร์ประสบการณ์คลอดธรรมชาติ

ผ่านมาแล้ว 6 เดือนกว่า... 14 มีนาคม 2562 อายุครรภ์ 37+6 เป็นวันที่ตื่นเช้าไปทำงานตามปกติ เดินไปกินข้าวกลางวันกับหัวหน้าและทีมงาน พอตกบ่ายก็แค่รู้สึกว่าปวดท้องเข้าห้องน้ำบ่อยและมีอาการท้องแข็งร่วมด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนถึงเวลานั่งรถตู้กลับบ้านเลยลองจับเวลาดู สรุปว่าท้องแข็งทุก 7 นาที จึงตัดสินใจว่าจะไปหาหมอตรวจดูว่าปกติหรือเปล่า พอถึง รพ. หมอตรวจแล้วบอกว่าปากมดลูกเปิด 3 ซม. จากนั้นมีรถเข็นมารับไปห้องรอคลอด ก็เข้าห้องรอคลอดไปแบบงงๆ ว่าจะคลอดวันนี้จริงๆแล้วเหรอ แต่ก่อนหน้านั้นเราตรวจเจอเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ก่อนคลอดจึงต้องมีการให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไปที่ลูก 4 ชม. พยาบาลโกนขนที่อวัยวะเพศและสวนก้นให้ ไม่ถึง 5 นาทีก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นเจาะน้ำเกลือเริ่มให้ยาฆ่าเชื้อ 19.30 ก็รอไปเรื่อยๆ จน ใกล้เวลา 22.00 พยาบาลบอกให้ไปฉี่เพราะหลังจากนี้จะลุกไปห้องน้ำไม่ได้แล้ว เข้าห้องน้ำเสร็จ หมอทำการเจาะถุงน้ำคร่ำแล้วให้ยาเร่งปากมดลูกให้เปิด ช่วงเวลาหลังจากนี้แหละคือการเจ็บท้องคลอดที่แท้จริง เจ็บถี่ขึ้นเรื่อยๆจากทุก 5 นาที เป็นเกือบทุก 1 นาที มองนาฬิกาตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลา 23.30 เพราะครบกำหนดให้ยาฆ่าเชื้อ พอครบเวลาพยาบาลให้ลองเบ่ง 2 ครั้ง จากนั้นก็ย้ายไปห้องคลอดขึ้นขาหยั่ง เท่าที่จำได้เบ่งประมาณ 3 ครั้ง (การเบ่งพยาบาลบอกว่าห้ามมีเสียง เพราะถ้ามีเสียงลมเบ่งจะไม่มี)​ครั้งสุดท้ายเบ่งไปแล้วลมไม่พอ ต้องเรียกลมเฮือกสุดท้ายออกมาพร้อมกับที่พยาบาลช่วยดันท้องให้แล้วตัวเล็กก็ออกมาเวลา 23.39 พยาบาลอุ้มตัวเล็กมาให้ดู เราก็มองแล้วคิดในใจว่าหน้าเหมือนใครน้าาา ทำไมขาวจัง 555 หลังจากนั้นหมอก็เย็บแผลให้ น่าจะประมาณ ครึ่ง ชม. พอย้ายเข้าไปห้องพักฟื้นเรานอนไม่ได้เพราะสั่นไปทั้งตัวจากการเกร็งบนขาหยั่งซึ่งไม่เหมาะกับคนขาสั้นอย่างเราซะเลย หลังจากนั้นก็ย้ายเข้าห้องพักที่เราจองไว้ การเข้าห้องน้ำครั้งแรกหมอให้มีคนพาไปด้วย เพราะมีโอกาสเป็นลมหน้ามืดได้ ซึ่งเราก็เป็นลมจริงต้องเรียกพยาบาลมาดูตอนตี 2 ครึ่ง ตัวเล็กน้ำหนักแรกคลอด 2850 กรัม น้ำหนักแม่ก่อนท้อง 36 กก. น้ำหนักแม่ก่อนคลอด 47 กก. ปล.เราไม่รู้สึกเลยว่าหมอกรีดตอนไหน ??

Đọc thêm
แชร์ประสบการณ์คลอดธรรมชาติ
 profile icon
Viết phản hồi