มาต่อกันนะคะ ใจจริงก็ไม่อยากเล่าต่อหรอกค่ะ เพราะผ่านช่วงที่สำคัญไปแล้ว แต่อยากเล่าต่อให้จบค่ะ พอลูกเสียไปวันนั้นทั้งวัน เราต้องเดินเรื่อง แจ้งตาย คือเเจ้งเกิดเสร็จ ก็แจ้งตายต่อเลย เราพึ่งผ่าได้ 7 วัน ร่างกายต้องพักผ่อน แต่ไม่ได้หยุดเลย ออกจาก รพ. วันที่ 14 พ.ค 63 ลูกเสียที่ 15 พ.ค 63 ต้องเดินไปห้องตรงนั้นตรงนี้ รพ.เขาก็กว้างเกิน เดินทีก็เดินได้ช้าเพราะเดินเเรงไม่ได้ มันเจ็บแผล แต่ก็สู้ จนแฟนถามว่าไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน เราเลยตอบว่าไม่ไหวก็ต้องไหว ทั้งขี่วินไปเขต ที่โคราช กลับมาไปแจ้งที่ใบมรณะที่ทะเบียนราษฎร อีก ไปทำเรื่องที่เก็บศพ ตอนแรกเราว่าจะมอบร่างให้กับ รพ. ให้เขาเอาไว้ ศึกษาต่อ แต่ทาง รพ.บอกว่าถ้ามอบให้ รพ. ทาง รพ.จะทำการ ฝังรวมเลยนะกับเด็กคนอื่น เราก็คงคิดว่า คงมีไม่กี่คนหรอกมั่ง พอไปที่เก็บศพ เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า การฝังรวมคือฝังไปพร้อมกับ อวัยวะที่ทาง รพ.ได้ตัดทิ้ง เศษชิ้นเนื้อ ทุกอย่าง เเขนขา ที่ถูกตัด เขาจะขุดหลุมใหญ่ๆแล้วฝัง พอถึง ร้อยวันเขาก็จะขุดมาทำบุญทีนึง พอเราได้ฟังถึงกับมองหน้ากันกับแฟน ว่า ลูกเราก็ยังมีเรานะ เราจะปล่อยให้เขา ไปอยู่กับคัยก็ไม่รู้หรอ ก็เลยทำเรื่องใหม่ ฝังเดี่ยว ซื้อโลง เล็กๆให้เขาแล้วทำเรื่อง ไปที่ ศาลหลักเมือง ที่โคราช พอฝังเขาเรียบร้อย ก็พากันกลับ บ้าน ไปแจ้งตายในทะเบียนบ้าน เเฟนบอกไม่มีเเรงไปทำงานต่อเลย รอตั้งนาน สุดท้าย มาเป็นไรแบบนี้ไม่รู้ เราหรอตั้งนานเป็นเดือน เวลาเดินตลาด เห็นเสื้อผ้า เด็กๆ น้ำตาคลอ เห็นเขาจูงมือเด็ก ไม่ต่างเลย นอนร้องไห้ทุกคืน ถ้าว่าทุกวันนี้ รู้สึกยังงัย ก็ที่พิมอยู่ ก็พิมไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ไม่เคยลืม #ขอบคุณทุกคนนะคะที่ให้กำลังใจขอบคุณทุกๆคอมเมนต์ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ และเสียใจกับทุกคนด้วยที่เจอเรื่องราว ต่างๆมาเหมือนกัน
Đọc thêmเรื่อง เสียใจที่สุดในชีวิต Ep2
มาต่อนะคะ ลืมบอกว่า ห้องคลอดที่ มหาราช ไม่ให้ใช้ โทรศัพท์ถ้าจะติดต่อญาติให้บอกหมอ จะมีโทรศัพท์อยู่ในนั้นให้ใช้ มาต่อเลยค่ะ พอออกจากห้องผ่า หมอบอกว่า เราจะรู้สึกว่าร่างกายท่อนล่างมันจะไร้ความรู้สึก เหมือนเป็นอัมพาต จริงคะ เหตุเกิดจาก การบ็อก พอเราเอามือตัวเอง สัมผัสไปที่ท้องของเรา มันเรียบไปเลยค่ะ น้ำหนักหายไป 10 โล เนื่องจากรกบวม ทารกบวมน้ำ ด้วย เรายังไม่ถามถึงลูกนะคะ เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าต้องเป็นแบบไหน แต่ความหวังเล็กๆ เราก็หวังว่าจะได้อยู่กับเขานานกว่านี้ เราเข้าห้องพักฟื้น แต่นาทีนั้น เบลอ ยาอยู่ อาการคือเวียนหัวมาก และยาที่ให้แก้ความดัน มันทำให้ร้อนข้างใน จะต้องบอกแม่ว่า เอาห้องพิเศษเถอะ หนูร้อนมาก แม่บอกว่าจองไว้แล้วแต่ยังไม่ว่าง เราก็ทนมาทั้งคืน พอพยาบาลคนนึ่ง เดินมาวัดความดัน เขาบอกว่า ใส่ยาตัวนี้ ถ้าร้อนมาก บอกนะคะ มีถุงน้ำแข็ง อยู่ เราก็บอกเลยค่ะ ว่าขอ พอตอนเช้า ถึงเวลา เช็ดตัว นั่งไม่ได้นะ เวียนหน้าบ้านหมุนเลย เเต่อยากบอกคือ รพ.เขาดีมากๆ พยาบาลเขาทั้งเช็ดตัวให้เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างตรงนั้นให้ เปลี่ยนผ้าอนามัยให้ คือดีมากๆ เเละแพทย์ที่ผ่าตัดเรา แต่ละคนจะมีแพทย์ ประจำตัวคนไข้นะคะ ไม่มีมาแบบว่า แพทย์คนเดียวทั้งโรงบาล 1 คนต่อแพทย์ 1 คน และเขาเข้ามาตรวจเราแต่เช้ามาก 6.00 น. ก็มาแล้วจ้า เรานอนที่ห้องพักฟื้น มา 2 วัน ลูกเราอยู่ ICU เด็ก ห่างจากตึกแม่มากอยู่ เพราะ รพ.เขาใหญ่มาก พอประมาณสายๆหน่อย หมอทาง ICU เด็ก โทรมาว่า เราอาการดีขึ้นไหม สามารถที่จะมาดู ลูกได้ไหม แต่เราไปไม่ได้ เนื่องจาก ที่ตัวมีแต่เครื่องเต็มไปหมด ทั้งสายฉี่ น้ำเกลือ เครื่องวัดความดัน เราเลยบอกว่า รออีกวันได้ไหม จะขอหมอให้ถอดออกให้ พอมาอีกวัน แพทย์มาตรวจ เขาถามว่า ทางเนอสเซอรี่ ได้โทรมาไหม เราบอกว่าโทรคะ แต่ไปไม่ได้เพราะ ติดตัวนี้อยู่ แพทย์เลยบอกว่า เดี๋ยวตรวจดูอาการคุณแม่ก่อนนะ ถ้าอาการ ดีขึ้นจะถอดให้ เราเลยบอกว่าคะ วันที่ 3 ผ่านไป มาเข้าวันที่ 4 ถอดทุกอย่างเห้อ โล่งมากจ้า เเฟนเลยบอกว่าเดี๋ยว บ่ายจะพาไปดูลูก เพราะแฟนเราไปดู ลูกทุกวันเลย แต่ไม่พูดบอกอะไรเราเลย เพราะกลัวเราจะอาการทรุด เเฟนเลยถามว่าพร้อมยัง ดีขึ้นไหม เพราะถ้าความดันขึ้นอีก จะได้เจาะอีกนะ เราเลยบอกว่าดีแล้ว ก่อนไปหน้าตาก็ดีขึ้นค่ะ จากที่โทรม มากเพราะท้องลูกชาย พอไปถึง ก็คิดว่าตัวเองจะต้องไม่เป็นไร พอเห็นสภาพลูกที่อยู่ในตู้ น้ำตาไหลเลยค่ะ เเล้วเวลาร้องไห้ มันจะเกร็งท้อง แล้วมันเจ็บแผลที่ผ่ามา ร้องไม่หยุดจ้า คิดเลยว่า เรายังเจ็บได้ไม่เท่าครึ่งหนึ่งของลูกเลย ถ้าแบ่งความเจ็บได้ ก็อยากแบ่งมากๆ ไม่อยากให้เขาเจ็บเลย ทั้งสายในปาก เจาะหน้าอก สายฉี่ สายอะไรต่อ มิอะไร เยอะไปหมด ลูกเราเกิด ตอน 8 เดือน น้ำหนัก 2040 กก. ตัวเล็ก ความเจ็บที่เรารู้สึกว่าเรากำลังเจ็บ พอมาเห็นลูก เราว่า เรามันเจ็บน้อยกว่าลูกอีก ความรู้สึกตอนนั้น คือแบบเสียใจแบบจุกๆมากอยากเป็นแทนเขา หมอในนั้นยังไม่บอกอะไร เพราะเห็นว่าเรายังไม่พร้อมที่จะฟัง เขาเลยนัดเรามาอีกพรุ่งนี้ เพราะ ผ่าคลอด จะต้องอยู่ รพ. 7 วัน ถึงจะได้ กลับบ้าน พอถึงวันที่หมอนัด เราก็ไปกับแฟน แฟนอยู่ข้างเราตลอด เพราะกลัวเราจะเป็นอะไร หมอก็อธิบาย อาการของลูกว่าเป็นอะไร เขาหัวใจโตค่ะ แล้วลิ้นหัวใจไม่ทำงาน หัวใจผลิตได้แต่เลือดดำ ที่เป็นเลือดเสีย ตอนนี้หมอกำลัง ผ่าเอาสายเลือดแดง ไปหล่อ ที่หัวใจ เพื่อให้ยังมีชีวิตอยู่ อาการตอนนี้ ยังกินนม เราไม่ได้ แม้แต่น้ำนม ก็ยังให้กินทางสายไม่ได้ เพราะกลัวเขาสำลัก แต่ก็หวังว่า อาการเขาจะดีขึ้น หมอบอก เราก็มีความหวังมานิดนึง พอเดินมา พยาบาลบอก อาการน้อง แย่นะ ตอนนี้ที่อยู่ได้เพราะเครื่อง ช่วย ใจหายเลยคะ ร้องไห้สิคะ รอไร ไปที่ห้องพักฟื้น เห็นแม่แม่ถาม ก็พูดด้วยร้องไห้ด้วย แม่เลยบอกว่า ถ้าเขาจะอยู่กับเรา เขาก็อยู่ ถ้าเขาไม่อยู่ ทำไงงัย เขาก็ไม่อยู่ แม่เลยบอกว่า นี่ขนาดเองเห็นเขาแค่ไม่กี่วันยังขนาดนี้ แล้วแม่ล่ะ เลี้ยงเองมา 26 ปี จะขนาดไหนถ้าเสียเองในวันนั้น พอตกกลางคืน นอน ร้องไห้ตาบวมทุกครั้งที่นึกถึง คือความรู้สึกแบบอยากได้ลูกมากๆมานานแล้วแต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ คือมันแบบ บอกไม่ถูกอ่ะ พอจะถึงวันกลับ เราต้องไปทะเบียนราษฎร เพื่อทำเรื่องเเจ้งเกิด จะได้เอาเอกสารไปขึ้นในทะเบียนบ้าน พอเอาเขา ใส่ในทะเบียนบ้านเสร็จ ไปประกันสังคม กำลังขับรถ หมอที่ รพ.โทรมาว่า น้องอาจจะเสี่ยงไตวายเฉียบพลัน จะให้ฟอกไตไหม คือเราเวลานั้นคือทำอะไรก็ได้ที่ให้เขารอด เราเลยบอกว่าค่ะ พูดไม่ออก ร้องไห้อีก พอขากลับจากประกันสังคม หมอโทรมาอีกว่า น้องเด็กเกินไปฟอกไม่ได้ค่ะ ตอนนี้คุณแม่พอจะมาได้ไหม เราเลยบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเช้าๆจะรีบไป ตอนนั้นเราอยู่ ประโคนชัย ลูกอยู่ มหาราช ที่โคราช พอตอนเช้ารีบไปเลยคะ ไปถึงประมาณ 09.20 น. รีบพากันขึ้นไป ที่ขึ้นไปก่อนเวลาได้เพราะเป็นเรื่องด่วนค่ะ เลยเข้าได้ พอเข้าไป หมอบอก ไตน้องไม่ทำงาน ร่างกายไม่ตอบรับการรักษา ถ้าเขาหยุดหายใจจะให้หมอ ปั้มหัวใจเขาไหมเราเห็นลูกทรมาน ใจเราแทบขาด เขาตัวนิดเดียว แล้วการที่เราต้องเห็นลูกค่อยๆหยุดหายใจไปต่อหน้า มันเจ็บยิ่งกว่า เเต่เราต้องทำในสิ่งที่สมควรทำ คือการที่ไม่ทำให้เขาทรมาน เขารอให้เรากับแฟน ไปจนถึงแล้วเราค่อยๆไปสัมผัสเขา ก่อนเขาจะสิ้นใจ เขารอเรามาทั้งคืน สุดท้ายเขาก็ทิ้งเราไป หมอถอดเครื่องทุกอย่างออก แล้วหมอก็มาบอกว่า เขาหยุดหายใจแล้วค่ะ ต้ำตาไหลพรากเลย ไปดูเขา หมอเลยถามว่า อยากทำอะไรไหม เราเลยบอกว่า อยากอุ้มเขาค่ะ หมอเลยเอาผ้าห่อเขาแล้วเอามาให้เราอุ้ม มันคือความรู้สึกที่อยากสัมผัสมานาน แต่มันเป็นสัมผัส ที่เเสนจะทรมานใจที่สุดที่ต้องอุ้มร่าง ของลูกตัวเอง ที่ไม่มีลมหายใจแล้ว ,😭😭#เหนื่อยแล้วเดี๋ยวมาต่อค้าาาจะจบแร้ววค้าบรอฟังกันหน่อยนะคะ #ท้องแรกคะ #ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ #ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
Đọc thêmเราอายุ 26 เราท้องคนแรก เป็นคนท้องยาก อยู่กับแฟนมา 8 ปี พึ่งตั้งครรภ์ ไม่เคยคุมกำเนิด พอท้องเรากับแฟน ดีใจมาก และหวังว่า เขาจะเป็นความสุขตัวน้อยๆให้เราเป็นทุกอย่างของเรา เราฝากท้อง ที่คลีนิคแห่งหนึ่ง เราก็ทำทุกอย่างที่เขาแนะนำ ประคองตัวเองมาจนเข้าเดือน ที่8 แล้วก็ถึงวันหมอนัด หมอซาวด์ แล้วบอกว่า หัวใจลูกโตผิดปกติ โตมาก เต็มหน้าอกเลย เราก็คิดมากสิ ความดันพุ่งปรี๊ด เอาใบส่งตัวไป รพ.บุรีรัมย์ ไปหาหมอ อาการหนักเลย บุรีรัมย์ ส่งตัวไป มหาราช ที่โคราช ซาวด์แล้ว ก็คือหัวใจลูกโตผิดปกติ โตมาก แถม ระบบการทำงานของหัวใจยังทำงานผิดปกติอีก ซับซ้อนไปหมด จนต้องนอนรอดูอาการ ในห้องคลอด ฉีดยากระตุ้น ปอดเด็กทุกๆ 4 ชั่วโมง เจาะน้ำคร่ำ ดูโครโมโซม เจาะเลือดเกือบเป็นสิบๆหลอด เพื่อดูการติดเชื้อ เราความดันสูงเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก และเสี่ยงครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรง ต้องนอนให้น้ำเกลือ ให้ยา แก้ความดัน ที่เป็นยา ที่พอเข้าร่างกายแล้วทำให้เรา ร้อนข้างในมาก ต้องนอนแบบทั้งเปิดแอร์ และมีพัดลม ต้องเอาเลือดไปตรวจดูค่ายาที่หมอให้ ทุกๆชั่วโมง แถมยังต้องตรวจดูหัวใจลูกทุกๆ ชั่วโมง นอนอยู่ในห้องคลอดมาสองวัน จนถึงวันที่ 9 พ.ค. 2563 ราว11.00 น. หมอบอก เราไม่ไหวแล้วต้องเข้าผ่าด่วน พอเราเข้าห้องผ่า ความดันพุ่งปรี๊ด 190 เกือบ 200 หมอเกือบ สิบคนอยู่ในห้องผ่ากับเรา หมอบอกต้องเปลี่ยนเข็มแล้วเจาะที่ใส่ยาเพิ่ม นาทีนั้น เจาะเเขนตรงไหนก็ไม่รู้สึกแล้ว การบ็อกหลังไม่ได้ง่ายและสบายอย่างที่คิด เจ็บแบบเสียวๆ ตอนเขาเอาเข็ม ที่เล็กกว่าเข็มปกติ เดินตามกระดูกสันหลัง เราทำสามรอบถึงบ็อกผ่าน พอเริ่มทำการผ่า แล้วหมอพากันกดตรงหน้าอกเรา เเล้ว เอาลูกออกมา มันรู้สึกเหมือน ยกภูเขาออกจากอก น้ำตานี่ไหลเลย ตอนเอาลูกออก เราได้ยินเสียงร้องเขาแค่ นิดเดียว แล้วหมอก็รอ จนกว่าจะเเน่ใจว่าเรา เลือดไหลปกติ เพราะหมอกลัวว่าเลือดเราจะไหลไม่หยุด เเม่เราบอกว่า เราอยู่เกือบ ชั่วโมงในนั้น # เดี๋ยวมาต่อนะ ยาวมาก#ท้องแรกคะ #ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
Đọc thêm