ลูกๆมีอาการแบบไหนบ้างคะ

แชร์ซ้ำค่ะ ลูก #อมมือ ไม่ใช่ #ไม่อิ่ม นะคะ!!! ช่วง 3-6 เดือน น้ำนมแม่เริ่มมามากขึ้น แต่แม่ส่วนใหญ่ยังคงกลัวว่าตนเอง มี #น้ำนมน้อย หรือน้ำนมไม่พอ หรือกังวลว่าน้ำนมของเราจะลดลงได้ . ความกลัวที่ว่า ก็คือ "กลัวน้ำนมไม่พอ" อาการใดบ้างที่ทำให้แม่กังวลว่าน้ำนมน้อยหรือไม่พอ? 1) #กินไปบ่นไป ดูดๆ ดิ้นๆ แล้วก็ร้องแว้กๆ (แต่ก็ยังพยายามดูดนมแม่นะคะ) อาการนี้คือ น้ำนมพุ่ง น้ำนมจี๊ดออกมาค่ะ ไม่ใช่น้ำนมน้อย สาเหตุที่ลูกดิ้นๆ บ่นๆ แค่คางยังขยับอยู่ ยังกลืนอยู่ เป็นเพราะลูกกลืนน้ำนมไม่ทันค่ะ (ถ้าลูกหยุดดูด หงุดหงิดแล้วฟัดนม อาจจะเพราะลูกติดจุกนะคะ ต่างกันที่คางไม่ขยับ) . กลไกการดูดนมของลูก - ในช่วง 1 นาทีแรกที่ลูกดูด ลูกจะดูดถี่ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิด let down reflex หรือปฏิกริยาน้ำนมพุ่ง - เมื่อน้ำนมเริ่มฉีด ลูกจะดูด-กลืน-กลืน แม่จะเห็นกรามของลูกขยับขึ้นลง บางครั้งจะได้ยินเสียงกลืนน้ำนมนะคะ - ถ้าน้ำนมฉีดแรงหรือลูกอยู่ในท่าที่น้ำนมไหลลงคอไวมาก ลูกจะบ่นค่ะ . - วิธีแก้น้ำนมพุ่ง: >> จัดท่ากินนมที่ลูกสามารถควบคุมการกลืนได้ดี คือท่าคว่ำหน้าบนอกแม่ที่นอนหงาย หรือท่านอนตะแดงที่นุนตัวลูกสูงขึ้นเล็กน้อย >> ปั๊มนมส่วนหน้าออกบางส่วนเพื่อลดแรงฉีดของน้ำนม แล้วเก็บสะสมไว้ให้ทานในวันที่ลูกไม่ค่อยอึได้ เพราาะน้ำนมส่วนนี้จะช่วยให้ลูกถ่าย เนื่องจากมีแลคโตสสูงค่ะ . ถ้าน้ำนมน้อยหรือลูกติดจุก ลูกจะผลักแม่ออกและปฏิเสธนมแม่ ในขณะที่กรณีน้ำนมพุ่ง ลูกจะยังพยายามดูดนมแม่ โดยที่ดูดๆ บ่นๆ นั่นล่ะค่ะ . 2) อยู่ๆ ก็ #ตื่นบ่อย แถมยังเอามือเข้าปากทั้งวัน "ลูกต้องไม่อิ่มแน่ๆ" ซึ่งก็ไม่ใช่อีกนะคะ อาการตื่นบ่อย อมมือ น้ำลายมาก เป็นอาการของเด็กที่กำลังจะมีฟันขึ้นค่ะ เมื่อลูกหลับสนิท โกรทฮอร์โมนจะหลั่ง ส่งผลให้มีการเจริญเติบโต ฟันน้ำนมที่อยู่ภายในเหงือกของลูกก็จะเริ่มงอก ส่งผลให้ลูกอมมือ คันเหงือก และตื่นบ่อยเนื่องจากรำคาญในช่องปากนะคะ บางคนได้กินนมแม่ก็จะหลับต่อได้อีกพักหนึ่ง แต่ก็จะตื่นมาร้องกวนอีก เด็กที่กินนมผงก็ร้องกวนและตื่นบ่อยเช่นกันค่ะ ไม่ใช่ นมไม่พอหรือน้ำนมน้อย แต่เป็นเพราะฟันของลูกกำลังงอกค่ะ . 3) ลูก #ไม่อึ ไม่ใช่น้ำนมน้อยถ้าลูกยังฉี่บ่อยอยู่นะคะ เด็กที่ได้รับน้ำนมส่วนหลังได้มากพอ ดูดนมแม่ได้เกลี้ยงเต้ามากขึ้น จะอึข้นขึ้นและไม่กะปริบกะปรอยเหมือนช่วงเดือนแรกค่ะ เด็กนมแม่หลายคนไม่อึนานถึง 10-20 วัน แต่ไม่ซึม ไม่งอแงนะคะ ขอเตือนกันไว้ก่อนเลยว่า พออึทีนึง ลูกจะอึมากจากล้นแพมเพิร์สเลยทีเดียว หึหึ . 4) ลูก #ฉี่เหลือง #ฉี่น้อยลง อันนี้จริงๆ ไม่ใช่เพราะน้ำนมน้อย แต่เป็นเพราะลูกกินนมน้อยลงเอง วัย 4-6 เดือน เป็นวัยที่วอกแวกและสนใจคนรอบข้างมากขึ้น จะหันไปตามเสียงเมื่อได้ยินเสียงรบกวน คุณแม่ควรเลือกที่สงบๆ เวลากินนมแม่ เพื่อสยบอาการวอกแวกของลูกและช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้เต็มที่มากขึ้นค่ะ . 5) #น้ำหนักขึ้นช้าลง ในช่วงนี้เป็นเรื่องปกติมาก! น้ำหนักลูกจะขึ้น แต่ขึ้นช้าลงเมื่อเทียบกับ 3 เดือนแรกนะคะ สาเหตุที่ลูกแลดูผอมลง เป็นเพราะลูกมีลำตัวที่ยาวขึ้น จะช่วยในการพลิกคว่ำพลิกหงายซึ่งเป็นพัฒนาการตามวัยของลูกค่ะ น้ำนมไม่น้อยลง ถ้าลูกยังกินนมเต็มที่และฉี่บ่อยตามเดิมนะคะ . 6) กลับไปทำงาน ยังปั๊มได้ไม่มาก อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน เพราะว่าการ ปั๊มนม เป็นทักษะค่ะ น้อยคนที่จะปั๊มนมได้มากทันที และคนส่วนใหญ่กลับไปทำงาน ในช่วงเดือนแรกยังต้องบริหารจัดการเวลาการปั๊มนม และบางคนยังมีความเครียดอยู่นะคะ หายใจลึกๆ หัด #ทำจี๊ด ให้เป็น เราจะสามารถนวดน้ำนมที่อยู่ในต่อมน้ำนม (ก้อนๆ) ได้มากขึ้น . ขอให้รักษาวินัยในการปั๊ม หัดทำจี๊ดด้วยการปั้นหัวนมเบาๆ ทำใจให้สบายแล้วจะรู้สึกจี๊ดๆ ซ่าๆ ที่หน้าออก น้ำนมจะไหลออกง่ายในช่วงนี้ นั่นล่ะคือการทำจี๊ดค่ะ ยิ่งเครียด ยิ่งปั๊มไม่ออก ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว (จะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้ค่ะ) หายใจลึกๆ ดูรูปของลูก ตัดความกังวลออก ขอแค่แป๊บเดียวนะ น้ำนมจะไหลง่ายค่ะ . คนส่วนใหญ่ให้นมแม่ไม่ได้เกิน 2-3 เดือน น้ำนมก็หมดซะแล้ว เป็นเพราะเสริมนมผงให้ลูก เมื่อเสริมนมผง ลูกจะอิ่มและดูดนมแม่น้อยลง และจะหงุดหงิดเวลาเจอเต้าแม่นะคะ แม่จึงเสริมนมผงมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกลายเป็นนมผงล้วนในเดือนที่ 3-4 (หากพยายามปั๊มนมแต่ปั๊มไม่บ่อยพอ น้ำนมจะออกน้อยค่ะ ก็ท้อยิ่งขึ้นอีก) แม่ที่ให้นมแม่ล้วนได้จน 4-5-6 เดือนจึงกลายเป็น "โชคดี" หรือ "แปลก" โดยปริยาย ในช่วงนี้หากลูกยังอยู่ในท่านั่งไม่ได้ ยังไม่ควรป้อนอาหารเสริม แต่ควรให้ลูกกินนมแม่ล้วนนะคะ . นมแม่ ยังคงเป็นอาหารหลักในตลอด 1 ปีแรกของลูกนะคะ อาหารเสริมก็คืออาหารเสริม เริ่มต้นตอน 6 เดือน ปลอดภัยมากกว่าการเริ่มป้อนก่อน 6 เดือนค่ะ หลัง 1 ปี ลูกควรกินข้าวเป็นหลัก กินนมเป็นอาหารเสริม การให้ลูกกินนมชง เสริมนมกล่อง ก็ไม่ช่วยให้ลูกไม่อมมือค่ะ . #นมแม่แฮปปี้