ความเชื่อหรอคะ

บ้านเราทยอยซื้อตั้งแต่21w ค่ะ วันไปคลอดคิดว่าซื้อทุกอย่างไว้ครบๆแน่นๆมากๆแล้ว แต่เมื่อได้ใช้ของที่ซื้อมาจิงๆแล้วนั้นจะรู้เองว่ามีอะไรให้ซื้ออีกเยอะมากมายหลังคลอด 55+ แม่สามีก็บอกผ่านสามีมาเหมือนกันว่าอย่าเพิ่งซื้อของเตรียมไว้นะ ... แต่เรากับสามีหาเชื่อฟังไม่ อิอิ พวกเราเอาความคล่องตัว+ความสะดวกของครอบครัวเราเป็นหลัก เพราะคลอดปุ๊บสามีกับเราเลี้ยงลูกกันเอง 100% เด๊ยวจะไม่มีเวลาหานั่นนู่นนี่แค่เลี้ยงลูกน้อยหอยสังห์ก็วุ่นวายมากอยู่แล้ว (ลูกคนแรกด้วย พ่อแม่มือใหม่สุดๆ) ... เราเรยคิดว่าการซื้อของเตรียมไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ พวกผ้าต่างๆก็ซัก+รีดทุกชิ้นแม่กระทั่งผ้าเช็ดปาก(ด้วยความเห่ออ่ะนะ 555+) หลังจากนั้นแค่ซักเส็ดแล้วพับให้สวยงามยังจะไม่มีเวลาทำเรยอย่าพูดถึงการรีด อิอิ เตียงลูกก็ติดตั้งไว้พร้อมใช้(กลับจาก รพ. ลูกพร้อมนอน) คาร์ซีทก็ติดตั้งพร้อมใช้อ่างอาบน้ำ เครื่องอบUV อุปกรณ์อาบน้ำลูก สำลีต่างๆ ยาต่างๆ น้ำยาล้างขวดนม (แรกๆเราไม่มีน้ำนม ต้องใช้นมเสริม อันนี้วุ่นวายมากๆบอกเลอ) เตรียมของไว้ให้พร้อม อะไรวางไว้ตรงไหนบ้าง เก็บไว้ตรงไหนบ้าง ช่วยกันจำกับสามี พอคลอดแล้วกลับบ้านจะได้ไม่ฉุกลหุก เพราะเราจะคลอดเอาจึงกำหนดไม่ได้ว่าจะคลอดวันไหน(สรุปได้คลอดเองสมใจ ^^) การจะวิ่งไปซื้อผ้าอ้อมหลังคลอดเราและสามีไม่ได้ว่างขนาดนั้นจ้า และอีกอย่างของใช้พวกผ้าต่างๆก็ต้องซักก่อนใช้นะค๊า ยังไงก็ควรต้องเตรียมก่อน ... และที่สำคัญของใช้เด็กเยอะมากๆๆๆ ถ้าไม่เตรียมอะไรเลย พอคลอดแล้วใครจะมาช่วยหาให้จ๊ะ ดีไม่ดี มีคำพูดลอยมาอีก ทำไมไม่เตรียม ทำไมๆๆๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ไรงี้(แต่แม่สามีเราไม่ได้ว่าอะไรนะที่เตรียมไว้ทั้งหมดแล้วน่ะจ้า) สรุป ถ้าต้องอยู่บ้านเดียวกันกับผู้ใหญ่ที่เค้าเตือนมาก็อย่าไปหักหาญน้ำใจกัน เค้าพูดในมุมมองของเค้าในยุค Gen ของเค้าจ้า ข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เค้าอาจจะไม่เข้าใจได้แต่บอกต่อๆกันมารุ่นสู่รุ่น จุดประสงค์ที่แท้จริงคือเค้าหวังดี+ห่วงใย เราก็แค่อธิบายความคิดของเราและโลกยุคนี้ให้เค้าฟังดูจ้า (บ้านเราดีที่ครอบครัวเราแยกมาอยู่กันเอง เรยทำอะไรสะดวกสุดๆ แม่สามีก็จะเตือนเรื่องอย่านั่งขวางบันได อย่าเพิ่งซ่อม/ทำต่อเติมบ้าน บลาๆ เราก็ฟังๆไว้ ส่วนจะทำตามหรือไม่ก็พิจารนาเป็นเรื่องๆไปจ้า)