ฝากครรภ์ ท้องแรก

ส่วนตัวฝากรพ.รัฐค่ะ ข้อดีก็มีก็เสียก็มีค่ะ ข้อดีคือประหยัดเงิน ทางนี้ข้อเสียคือนาน ไปรพ.8โมงได้กลับบ่าย2-3แทบทุกครั้ง ส่วนเรื่องบริการ อันนี้นิสัยส่วนตัวของบุคลากรล้วนๆค่ะ รอบแรกที่พบหมอ หมอคือนิสัยแย่มาก ตอบห้วนๆ แต่พอครั้งที่2 หมอพูดจาดี ตอบคำถามทุกอย่างที่เราสงสัยค่ะ (อันนี้ฝากปกติ ไม่ได้ฝากพิเศษเลยเปลี่ยนหมอตามที่เข้าเวรแต่ละครั้ง ) ส่วนตัวถ้าแนะนำ ฝากคลินิคดีกว่าค่ะ เค้าจะบอกรายละเอียดทุกอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่ความยาว นน. เพศ ฝากคลินิกใกล้คลอดค่อยย้ายไปฝากที่รพ.ที่เรามีสิทธิ์ค่ะ (แต่แม่ต้องศึกษารพ.ที่ย้ายสิทธิ์ด้วยนะคะ บางที่ อายุครรภ์เกิน37 เค้าไม่รับฝากต่อก็มี )

สำหรับเราคนต่างจังหวัดเน้นเลือกหมอที่ไว้ใจจะให้ทำคลอดโดยเป็นหมอในรพ.ที่จะคลอด ถ้าไปรพ.อาจจะเลือกเวรวันที่หมอลง แต่ถ้าสะดวกไปคลินิคหมอท่านนั้นจะได้ความรวดเร็ว ความละเอียด ไม่ต้องรอคิวเยอะเหมือนรพ. ของเราไปคลินิค พอถึงครบกำหนดคลอดเราฝากพิเศษกับหมอท่านนี้ให้ทำคลอดให้ หมอจะออกหนังสือส่งตัวไปรพ.ให้เอง หรือถ้าคลอดฉุกเฉินเราไปรพ.เลยแล้วพยาบาลจะโทรตามหมอมาทำคลอดให้ค่ะ

ถ้ามีเวลาโรงบาลรัฐก็ไม่ได้แย่ค่ะ อาจจะแล้วแต่ที่ด้วย ที่เราไปฝากค่อนข้างดี ใส่ใจ ที่สำคัญ ประหยัด แม่เราเคยฝากคลีนิคแทบไม่แตกต่าง เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกด้านเวลาและการใส่ใจมากๆ แต่ลำบากตอนเจ็บท้องคลอดต้องรอคลอดกับหมอที่ฝากพิเศษกรณีคลอดเองน่ะค่ะ

เราก็ท้องแรก ลองฝากมาทั้ง 2 ที่ แนะนำว่าถ้าแม่ไม่ห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายแนะนำคลินิกดีกว่าค่ะ สะดวก เร็ว และคุณหมอตรวจละเอียดมาก รพ รัฐบางที่รอคิวนานบริการไม่ทั่วถึง ไม่ได้ซาวด์ ไม่อัพเดตอะไรให้ฟังเลยค่ะ

คลินิคน่าจะดีสุด รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน แต่ค่าใช้จ่ายสูง แต่ถ้างบน้อยก็ รพ.ได้ค่ะ ถ้าอยู่ กทม เราแนะนำรามาธิบดีเลยค่ะ ละเอียด บริการดี

บ้านนี้ฝากคลินิกไม่เกินครั้งละ1500 สะดวกรวดเร็ว ฝาก รพ รัฐตามสิทธิ์ได้เซฟค่าใช้จ่าย

ถ้ามีทุนแนะนำ คลีนิคค่ะ ถ้าอยากเซฟค่าใช้จ่าย รพ รัฐ เลยบ้านนี้ก็ใาก รพ รัฐ

เราฝากเอกชน ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ฝากฟรี ไปไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยค่ะ ได้ยามาทาน

เราฝากเอกชนใกล้บ้าน สะดวกดีค่ะ เกืดเหตุฉุกเฉินใดๆ แม่ไปหาคุณหมอได้แปบเดียว

ถ้ามีงบก็คลินิกที่ดีหน่อยค่ะ