แชร์ประสบการณ์คลอดลูกคนแรก
กำหนดคลอด 4 ก.ค 63
ฝากครรภ์ที่คลินิก วันที่ 2 ก.ค 63 หมอนัดอัลตร้าซาวด์ ผลออกมาหมอบอกน้ำคร่ำลดลงนิดนึง คุณหมอถามว่าแม่จะเร่งคลอดเลยมั้ย หรือจะรออีกสักอาทิตย์ ถ้าไม่ปวดท้องคลอดค่อยเร่งก็ได้ ตอนนั้นอยากเห็นหน้าลูกมากและไม่อยากเสี่ยงถ้าน้ำคร่ำลดลงไปอีก เลยตัดสินใจคลอด คุณหมอเลยส่งตัวให้กับ รพ. เพื่อเร่งคลอดในวันที่ 3 ก.ค 63
❤วันที่ 3 ก.ค 63 เตรียมของไป รพ. แต่เช้า ไปแจ้งพยาบาลที่ห้องฝากครรภ์ว่าหมอส่งตัวมาให้เร่งคลอด พยาบาลก็เช็คประวัติส่งต่อให้หมอตรวจแล้วส่งต่อมายังห้องคลอด เข้ามาห้องคลอดแล้วตื่นเต้นมาก สามีก็รออยู่หน้าห้องคลอดตลอด วันนี้หมอห้องคลอดยังไม่ใช้ยาเร่งโดยบอกว่าให้รอก่อนเผื่อเจ็บคลอดเอง ถ้ายังไม่มีอาการพรุ่งนี้ค่อยใช้ยาเร่ง สรุปแม่ก็นอนฟังเสียงคนอื่นคลอดทั้งวันทั้งคืน แต่อิแม่ไม่มีอาการอะไรเลย
❤วันที่ 4 ก.ค 63 หมอให้ยาเหน็บแต่เช้า แต่อิแม่ก็ไม่มีอาการอะไรเลย จนตอนเที่ยงหมอให้ยากระตุ้นทางสายน้ำเกลือ หลังจากนั้นไม่นานแม่ปวดท้องมาก ปวดบิดทรมานเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ที่เค้าว่ากันว่าให้ยาเร่งคลอดปวดมากกว่าปวดธรรมชาติกว่าหลายเท่า ยิ่งตอนหมอมาคว้านปากมดลูก แม่นี่แทบหน้ามืดเลย รออีกสักพักหมอก็มาเจาะถุงน้ำคร่ำ นอนรอจนถึง 6 โมงเย็น ปากมดลูกก็ยังเปิดแค่ 1 เซ็น หมอเลยส่งไปผ่าคลอด นาทีนั้นรีบส่งไปที ปวดไม่ไหวแล้ว เหมือนจะตายให้ได้
❤❤เข้าห้องผ่าตัด แม่โดนบล็อคหลัง ในใจกลัวมากจะเจ็บมั้ยตอนผ่ากลัวยังรู้สึกเพราะหมอจับท้องยังรู้สึกอยู่เลย แปบๆก็ได้ยินเสียงน้องร้องแล้ว ได้ยินเสียงหมอบอกน้องคลอด 18.52 น. พยาบาลอุ้มมาให้จุ๊บทีนึงแล้วเย็บแผลต่ออีกสักพัก ส่งตัวไปห้องพักฟื้น ขอห้องพิเศษก็เต็มหมดเลย โชคดีที่ห้องรวมมีแค่ 2 เตียง แอบหวั่นๆกับโควิด 19 เหมือนกัน
❤❤ ด.ช.วัชรพล สุพร น้องอคิณ ผ่าคลอด 4 ก.ค.63 เวลา 18.52 (40 week พอดี) น้ำหนัก 3040
#ฝากไว้ให้คิด ถ้าแม่ๆรอคลอดเองได้โดยไม่ใช้ยาเร่งคลอดจะดีกว่า เพราะอาจจะเจ็บ 2 ต่อแบบแม่ และการผ่าคลอดหลังจากเร่งคลอดไม่สำเร็จจะเป็นการผ่าแบบแนวตั้งเพื่อทำการนำเด็กออกมาให้เร็วที่สุด อาจจะเป็นแผลชัดกว่าผ่าแนวนอน
Paritta