4 Các câu trả lời
ประสบการณ์คลอดลูกคนที่3 บ้านนี้มีมูกเลือดแต่ไม่เจ็บท้องตอน37+5ค่ะ ลุกมาเข้าห้องน้ำตี3 เห็นมูกเลือดติดทิชชู่ เลยมาอาบน้ำสระผมเผื่อจะคลอดวันนั้น เตรียมข้าวของไว้ พอ6โมงเช้าโทรไปห้องคลอด พยาบาลบอกให้มาเลย มีมูกเลือดถึงไม่เจ็บท้องก็ให้มาเลยแม่ แต่ตอนนั่งรถไปโรงพยาบาลก็ยังไม่เจ็บท้อง อาการแค่ท้องแข็ง แต่ถี่ขึ้น ถี่ขึ้น และแน่นแบบหายใจไม่ออก พอถึงโรงพยาบาล7โมงเช้า ยื่นบัตร 7:05นาที เข้าห้องรอคลอด เปลี่ยนชุด นอนบนเตียง ใช้เครื่อง electronic fetal monitor ใช้แถบพันหน้าท้องสองสาย เพื่อวัดอัตราเต้นหัวใจเด็ก และ การหดรัดตัวของมดลูก ตรวจปากมดลูกเปิด4เซน ก็ให้นอนรอ พอได้7เซน ก็เข้าห้องคลอดเลย เพราะท้อง3 พยาบาลกลัวจะเข้าห้องคลอดไม่ทัน พอเข้าห้องก็เช็ดทำความสะอาด ท้อง ขา ช่องคลอด แล้วก็ลองเริ่มเบ่ง เบ่งยังไงก็ไม่ออก เคยเบ่ง2คนก่อนออกเร็วมาก เบ่งน้องไม่ออก เบ่งอยู่นานมาก หัวน้องโผล่ออกมาแล้ว แต่ติดไหล่ เบ่งจนแม่หมดแรงแล้วก็ไม่ออก พยาบาลบอกว่าคุณแม่ต้องเบ่ง ไม่งั้นอันตรายต่อน้อง เพราะหัวโผล่ออกมาแล้วนะคะ พร้อมช่วยทำเสียงเบ่งช่วยกัน เบ่งไม่ออกอีก คุณหมอเลยกรีดช่องคลอดและตูดเป็นรูเดียวกัน ( 2คนก่อนกรีดนิดเดียว) พอเบ่งน้องออกมาแล้ว คุณหมอตกใจ เรียกไจแอ้น รีบยกไปเช็ดตัว ชั่งน้ำหนักลูก หนัก4250 กรัมค่ะคุณแม่ คลอด 8:55 รกคลอด 9:00 คุณหมอแจ้งว่า น้องสำลักน้ำคร่ำ และตัวเขียวมากๆๆๆ รีบให้ออกซิเจน พอเช็ดตัวเสร็จ เอาออกซิเจนออก พอเอาออกน้องตัวคล้ำขึ้น พอให้ออกชิเจนตัวแดงขึ้นมา คุณหมอว่าคุณแม่น้องหายใจเองไม่ได้ พร้อมบอกว่าไม่เคยเห็นแบบนี้ ปกติให้ออกซิเจน พอเอาออกก็แดงปกติ แต่คนนี้เอาออกแล้วเขียวคล้ำลง คุณหมอก็เย็บแผลให้ พยาบาลก็ใส่เสื้อผ้าน้อง ช่วยกัน กับอีกคนถือออกซิเจนให้น้อง แล้วเอาไปให้ออกซิเจนข้างนอก ตัวแม่เอง สั่น สั่นทั้งตัว สั่นไม่ใช่สั่นหนาวนะคะ ถาม คุณหมอว่า ทำไมถึงสั่นแบบนี้คะ คุณหมอว่าคุณแม่มีอาการตกเลือด ประมาณ500ซีซี เย็บแผลเสร็จรีบเข็นออกมาข้างนอก ให้น้ำเกลือต่อ ฉีดยาช่วยมดลูกหดรัดตัวเข้าไปในน้ำเกลือ เพื่อให้เลือดหยุดไหล ( ถ้าเลือดยังไม่หยุดอาจจะมีโอกาสตัดมดลูกทิ้งเพื่อช่วยชีวิตแม่ นวดมดลูกทั้งพยาบาล พี่สาว หลานสาว นวดแรงมากๆๆ เพื่อให้มดลูกหดรัดตัว) ผ่านไปชักชั่วโมงคุณหมอมาแจ้งว่า คุณแม่ใจเย็นๆนะคะ คือหมอสัญนิฐานว่า น้องอาจจะเป็นโรคหัวใจ หรือลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ทำให้น้องไม่สามารถหายใจเองได้ ดูจากอาการนะคะ น้องสำลักน้ำคร่ำด้วย กลืนน้ำคร่ำไป ต้องดูดออก ถ้าบ่าย2แล้วยังลดออกซิเจนน้องไม่ได้ จะรีเฟอร์น้องไปอีกโรงพยาบาลที่มีห้องNICUเด็กนะคะ ให้คุณพ่อรีบมาแจ้งเกิดน้องแล้วเอาใบเกิดมายื่นทำเรื่องรีเฟอร์น้อง ใจแม่จะสลายเลยลูก ญาติพี่น้องเต็มข้างเตียงใจไม่ดีกัน พอบ่าย2 น้องลดออกซิเจนไม่ได้ ก็ได้ส่งตัวไปแกโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีโอกาศเจอน้องเลยจนวันออกจากโรงพยาบาล แฟนก็ดูลูกทุกวัน แจ้งว่า น้องตัวใหญ่ ทำให้หายใจเองไม่ได้ หัวใจเต้นแรงและเร็ว อย่างอื่นปกติ รอให้ออกซิเจนน้อง ให้น้องปรับอุณภูมิได้ จะลดออกซิเจนลง ถ้าน้องหายใจเองได้ก็ให้กลับบ้านได้ คุณหมอบอกว่า น้องโชคดีมาก ถ้าบางคนอาจจะไหล่หลุดหรือเส้นประสาทมีปัญหาใช้การไม่ได้ ช่วงน้องอยู่โรงพยาบาลก็ไปป้อนนมน้องบ้าง ก็ปั้มนมให้แฟนไปส่งให้น้องด้วย นมคัดเต้าแบบจะระเบิด เจ็บจนนั่งร้องไห้หน้าห้องNICU ขาก็ยอกเดินแทบไม่ได้ ก็ปั้มนมให้แฟนไปส่งบ้าง พอวันที่7ก็ไปรับน้องกลับบ้าน จริงๆกำหนดคลอดน้อง 27 มิถุนา นัดประเมินก่อนคลอด 20 แต่น้องคลอด 13 มิถุนา เลยไม่ได้ประเมินก่อนคลอด หมอก็ไม่ได้ซาวด์ดูท่าเด็กกับน้ำหนักเลย เอาสายมาวัดขนาดน้อง ประเมินว่า เต็มที่ไม่เกิน3700 แต่คลอดมา4250กรัม ถ้ารู้น้ำหนักลูกจากการอัลต้าซาวด์ จะผ่าเลย ไม่ช้ำทั้งแม่และลูก ตอนแรกจะรอให้เจ็บท้องหนักๆรอให้ไม่ไหว ถึงจะไปโรงพยาบาล ถ้ารอให้เจ็บหนักไม่รีบไป ไม่อยากคิด อาจจะตายทั้งแม่ทั้งลูกเลย เพราะขนาดพยาบาลช่วย ยังเบ่งเกือบไม่ออก ตอนนี้น้อง10เดือน10วันแล้วค่ะ ขอบคุณแม่ๆทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ ความเจ็บปวดที่งดงาม
ตอนเราเองคลอดลูกคนแรก ก็กังวลคะไปตรวจอุ้งเชิงกราน ก็แคบเกินไปพยาบาลแนะนำให้ผ่า เพราะช่วงแปดเดือนซาวน้อง3โลกว่า แล้ว คลินิคที่ฝากอยู่ตอนแรกก็ไม่ได้รับผ่า ส่วนตัวเราเองก็อยากคลอดเอง แต่กังวลหลายอย่างบ้านก็ไกลโรงพยาบาลเลยตัดสินใจเปลี่ยนคลินิค ฝากผ่าพิเศษ แล้วก็ดันเจ็บท้องวันผ่าอีกคะ ต้องให้ยาระงับเจ็บท้องไว้เพื่อรอผ่า10โมงเช้าไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตี2เพราะมีน้ำเดิน น้องผ่าคลอดมา4880คะ หายใจเร็วเข้าอบอยู่คึ่งวันเหมือนกันคะ
นางมารร้าย ในสายตาเธอ