เราแต่งงานก็ย้ายมาบ้านสามีค่ะ อยู่ได้ไม่นานก็เจอสถานการณ์ตึงเครียด ร้องไห้ทุกวัน สามีเราก็ไปทำงานไกล เราก็ทนไม่ไหวก็เลยบอกสามีว่าขอย้ายไปอยู่ที่อื่น ไม่งั้นเราจะกลับบ้านเรา สามีก็ยอมค่ะ พาเราไปยุด้วยเช่าห้องให้ยุ ยุได้สัก8-9เดือน ย้ายมายุบ้านยายของสามีเป็นบ้านที่ไม่มีใครยุ และเราก็ท้อง มีบ้างแม่สามีจู้จี้ขี้บ่น แต่เรายุห่างกัน ยุบ้านคนละหลัง เราเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ค่ะ ไม่แคร์สิ่งรอบข้าง เราเลือกแคร์แค่สามีกับลูกพอค่ะ บางเรื่องสามีต้องเข้าใจเราค่ะต้องเด็ดขาดกับเรื่องจุกจิก ไม่งั้นเรื่องพวกนี้จะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นค่ะ ลองคุยกับสามีดูค่ะ สู้ๆค่ะ ธรรมดาเเม่สามีกับลูกสะใภ้
แม่สามีบ้านนี้เริ่มเปลี่ยนไปก่อนเราท้องอีกค่ะเหตุเพราะลูกสาวของพี่สาวเค้าค่ะ เข้าข้างมากกกกก ลูกชายบอกอะไรไปไม่เชื่อเลย แต่ก็เข้าใจเพราะว่าสามีเราลูกเค้าเคยทำตัวไม่ดีในเรื่องเสพยาแต่มันก็เป็นปกติสำหรับสังคมไทยในตอนนี้มากแต่ก่อนท้องสามีได้เลิกไปได้4-5 เดือนเลยทำให้ได้มีสมาชิกใหม่ค่ะ แต่ของคุณแม่นี่หนักมากเลยค่ะกลับบ้านเรานะคะถ้าสามีของคุณแม่อยากอยู่กับแม่เค้าก็ปล่อยเค้าอยู่ไปค่ะ สภาพจิตใจของคนท้องเนี่ยเดาอารมณ์ไม่ได้เลยค่ะ สามีบ้านนี้ดีที่ไม่เข้าข้างแม่เค้าค่ะ อะไรถูกก็ว่าไปตามถูกค่ะแต่เผอิญว่าแม่สามีไม่อยู่บ้านแต่ทำงานที่กรุงเทพฯค่ะ
อยู่ไม่ไหวก็ออกมาค่ะ ถ้าจำเป็นต้องอยู่ให้คุยกับสามีตรงๆว่าเราท้องเครียด ให้เขาหาวิธีคุยกับที่บ้านเขา เราก็อยู่บ้านสามีค้ะ มีปัญหาแม่สามีค่อนข้างเจ้ากี้เจ้าการ ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวค่ะซื้ออะไรมจะแอบดูรู้ทุกอย่าง บางทีมาถามว่าซื้อนั้นมาใหม่ใช้ดีไหม คือไม่ได้ซื้อค่ะบางทีที่บ้านให้มาเพื่อนให้มา เขาคิดว่าเราซื้อของใหม่ ทั้งๆที่ของอยู้ในห้องนอนนะคะเห็นได้ไง งงเลยค่ะความเกรงใจไม่ค่อยมีค่ะ จะทำอะไรจะพูดอะไรบางทีเช้าๆตื่นก่อนก็ไปตลาดมาเสียงรถดังก็ไม่แคร์ สตารทรออยู่นั่นค่ะ เป็นกำลังใจให้นะะงคะ อดทนเพื่อลูกค่ะ เบลอใส่ หลีกเลี่ยง ปล่อยวางนะคะ
ขอเม้นเพิ่มค่ะ ถ้าเป็นเราว่ากลับไปแล้วค่ะไม่สนเพราะเคยว่าแม่สามีไปแล้วก่อนท้องค่ะ ต้องใจเด็ดกว่านี้นะคะ ที่คุณแม่บอกว่าเข้าใจแต่สงสารสามีเนี่ยแบบนี้เรียกว่ารักสามีหลงสามีมากค่ะ แต่จะอะไรก็ตามค่ะลองใจเด็ดสักครั้งค่ะ พูดไปเลยค่ะส่ามันหงุดหงิดพูดกับแม่สามีเราค่ะ แต่ต้องพูดตอนสามเราอยู่ด้วยนะคะและอีกอย่างไม่ต้องบอกเค้าว่าเราอดสุดๆแล้วให้โพงออกมาเลยค่ะจะร้องไห้ด้วยก็ทำไปเลยค่ะ สามีเราจะได้เข้าใจว่าเราที่อุ้มท้องลูกเค้าอยู่เนี่ยไม่ไหวแล้วค่ะ
กลับบ้านเราดีกว่าค่ะ แต่ดี แม่ผัวพ่อผัวทางนี้ ไม่อะไรเลย ตั้งแต่รู้ว่าท้อง ก็รับมาอยู่ด้วยตลอด ไปรับไปส่งเวลาหาหมอทุกครั้ง เพราะแฟนทำงาน กับข้าวอะไรก็เตรียมไว้ให้หมด ถ้าเราอยากทำ อยากกินอะไรก็ทำเอา หิวหรืออยากกินอะไรให้บอก ลูกชายเขากลับบ้านดึกหรือทำให้เราไม่พอใจ เราก็ด่าก็ว่านะ พ่อแม่เขา ไม่ได้ว่าเราเลยสักนิด มีแต่สนับสนุนให้บ่นมันบ้าง เพราะพ่อกับแม่บ่นมันไม่ได้
ยังโชคดีที่สามีเข้าใจ ในเมื่อมันจำเป็นต้องอยู่แม่ก็ต้องอดทนเอาค่ะ เป็นกำลังใจให้ พยายามอย่าเครียดนะคะหรือถ้าเครียดก็ทำให้มันเครียดน้อยที่สุด เราเข้าใจเพราะเราก็ไม่ถูกกันกับแม่สามีเหมือนกัน แต่ยังโชคดีกว่าแม่คือเราอยู่บ้านของเราเองและสามีก็เข้าใจเราด้วยค่ะ สู้ๆนะคะ✌️🥰
เราว่ากลับมาบ้านดีกว่าค่ะ นี่ยังไม่ทันคลอดนะคะ ถ้าคลอดออกมา น่าจะยาวค่ะ หัวโบราณแบบนี้ มีปัญหากันยาวๆ ไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ ยังไงก็ไม่เลิกวุ่นวายกับเราหรอกค่ะ เดี๋ยวก็บอกว่าหลานฉันเหมือนกัน กลัวจะให้กินน้ำกินกล้วยเอาฉี่เช็ดลิ้นไรงี้อีก แย่ค่ะ กลับบ้านดีกว่า
พยายามอย่าคิดมากค่ะ ปล่อยผ่าน เราโดนพูดใส่สารพัด หาว่าเราขี้เกียจบ้าง ทั้งๆที่เราเป็นคนหุงข้าวเป่าไฟ ล้างจาน กวาดบ้าน ต้องดูแลลูกคนโต ไปส่งลูกไปโรงเรียนอีก หาว่าเราอ่อนแอบ้าง เราเลยพยายามไม่คิด ไม่ต่อล้อต่อเถียง คิดเสียว่าแกเสียสติไปแล้วก็พอค่ะ
รักตัวเองรักลูกให้มากนะคะ อะไรที่ไม่สมควรทนก็อย่าไปทนค่ะ จิตตกเปล่าๆอยู่ในที่แบบนั้น สามีก็ควรนึกถึงเมียด้วยว่าไหวมั้ย ยิ่งท้องเครียดง่ายอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วกลับบ้านตัวเองเถอะจ้า สงสารลูกในท้องแม่เครียดส่งผลแท้งคุกคามได้นะ
กับสามีแม่ต้องเด็ดขาดค่ะ ไม่อยู่คือไม่อยู่ไม่แต่อะไรทั้งนั้น เลือกสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับตัวเองและลูกก่อน เขาอยากอยู่กับแม่ก็ให้เขาอยู่ไป เราไม่สบายใจก็ออกมา ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใคร ชีวิตและร่างกายเป็นของเรา
Suwadee Wajangreed