?

แรกๆเขาอาจจะผิดหวังหรือโกรธค่ะ แต่เราต้องยอมรับที่เขาเป็นแบบนั้น เพราะเขาอาจจะคาดหวังกับเราไว้มาก สิ่งที่เราต้องทำคือ 1.ตกลงกับแฟนว่าจะแต่งหรือเอายังไงต่อ ให้ผู้ใหญ่มาตกลงกันให้เรียบร้อย 2.วางแผนเลี้ยงลูก ทั้งการเงิน การฝากครรภ์ การคลอด ค่าใช้จ่ายหลังคลอด 3.ตั้งใจเก็บเงินเลี้ยงลูก 4.ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์รบกวนทางบ้านให้น้อยที่สุดค่ะ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเราพร้อมที่จะมีลูก แต่ช่วงเวลาอาจจะไม่เหมาะสม(กรณีที่บ้านหัวโบราณ) .. ลูกเป็นของขวัญที่ล้ำค่านะคะ เชื่อเราเถอะค่ะอะไรที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ ตั้งสติและเข้มแข็งให้มากๆนะคะ ..

ประเด็นไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ต้องยอมรับอย่างนึงค่ะว่า เราอยู่ในประเทศไทย วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี มันมีมาแบบนึง พอเราทำอีกแบบนึงที่ขัดกัน ก็ย่อมมีคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่พึงพอใจค่ะ ส่วนตัว เราไม่ค่อยแคร์เรื่องตั้งท้องตอนไหน แต่เราแคร์เรื่องตั้งท้องตอนที่"พร้อมจริงๆ"หรือยัง มากกว่าค่ะ ถ้าท้องตอนที่ยังไม่ได้พร้อมจริงๆ ต่อให้แต่งงานแล้วก็ตาม สำหรับเรา มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจค่ะ เสียใจเพราะเราสงสารเด็กที่จะเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่พร้อม และได้รับการเลี้ยงดูจากคนที่ยังไม่พร้อมเป็นพ่อและแม่*ที่ดีจริงๆ*ค่ะ

ไม่ผิดหรอกคร้าอยู่ที่ครอบครัวจะเข้าใจเราหรือป่าว ขนาดเรายังไม่แต่งเรายังมีเรย พ่อกะแม่ก็ไม่ว่ารัยนะเราโตแล้วพ่อแม่เข้าใจเรามาตลอด และครอบครัวก็เป็นกำลังใจให้ แต่ทางสังคมแล้วแต่ค่ะเราไม่ได้ฆ่าใครตายเราไม่สน สักวันเขาก็เลิกสนใจเรื่องของเราเอง เรารู้นะแต่เราคิดจะมีเอง และทางอีกฝ่ายเขาก็ไม่ได้ว่ารัยเขาบอกถึงว่าที่คุยกันจะแต่งเขาก็จะมาเหมือนเดิม นี้ค่ะที่ทำให้เราไม่คิดอะรัยมากต่อสังคม

ไม่ผิดหรอกค่ะ...คุณแม่กำลังท้องอย่าคิดมาก อย่าเครียด มันจะส่งผลถึงลูกนะค่ะ ทำใจให้สบาย ลูกออกมาจะได้แข็งแรง พัฒนาการดี...การแต่งงานคือการสมมติขึ้นมาเพื่อประเพณีวัฒนธรรมแค่นั้นเองค่ะ เวลาผ่านไป ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เพื่อตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลก (ขนาดแต่งงานแล้วมีลูก ยังไม่เห็นจะมีอะไรที่จะไปเกี่ยวข้องกับการท้องก่อนแต่งหรือไม่เลยค่ะ)

ไม่ผิดค่ะ มันแค่กรอบความคิดทางสังคมแค่นั้นเอง เราคบกับสามีแค่ 6 เดือนเอง แล้วท้อง แต่พ่อแม่เราท่านไม่เสียใจหรือผิดหวังเลย กลับดีใจมากๆด้วยซ้ำ แม่ต้องอย่าคิดมากนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อคุฯแม่ก็เข้าใจค่ะ ส่วนความเห็นคนอื่นช่างเขาเถอะค่ะ เราห้ามไม่ได้ แต่ชีวิตของเรา คนอื่นไม่ได้มามีอิทธิพลหรือกำหนดชีวิตเรานะคะ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทำใจสบายๆ โฟกัสแต่ตัวเล็กเนอะ ♥️

ขอให้คิดแง่บวกนะคะ กรณีเราทำตามทำนองครองธรรมเป๊ะ กว่าจะแต่งงาน อายุปาไป 32 จากนั้นมดลูกเสื่อมเป็นพวกมีบุตรยาก ฝ่าฟันทำหลอดแก้วหาแพทย์แผนจีนเสียตังก็เยอะ กว่าจะมีลูกปาไป 39 ชอบคุยกับสามีว่าถ้าย้อนเวลาไปได้ น่าจะแต่งงานตั้งแต่วัยรุ่นหรือท้องก่อนแต่งไปเลยก็ดี ดังนั้นท้องไม่ว่าจะก่อนหรือหลังแต่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ

เป็น​ปกติ​ที่พ่อแม่จะผิดหวัง​ แต่ในเมื่อพลาดไปแล้ว​ ก็ไม่ควรไปตำหนิ คนทุกคนต้องการกำลังใจ ตำหนิไปก็ไม่ช่วยให้อะไร​ดีขึ้นมา เพราะ​ไม่มีใคร​สามารถ​ย้อนเวลากลับไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าไปเก็บ​คำพูด​คนอื่นมาคิด ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา ใครอยากพูดอะไรก็ปล่อยเค้าไป ขอให้ใจเราเป็นสุขก็พอ สู้ๆ ค่ะ

เราไม่ได้แต่ง พอท้องก็ยังไม่ได้แต่งเลย ทีแรกก็มาคุย พอถึงวันที่ตกลงกัน ก็มีเหตุผลขอเลื่อนร้อยแปดพันอย่าง ขนาดไม่เรียกค่าสินสอดนะขอแค่มามัดไม่มัดมือให้ถูกประเพณีเอง #ปลง !!! คบกันมา7ปีแล้วค่ะ จะคลอดสิงหานี้แล้ว เรื่องมีลูก ไม่มีใครว่าอะไรให้ค่ะ อายุ25 อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เด็กจนเกินไป

ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ เราเองก็ไม่ได้แต่งเพราะคิดว่าไม่จำเป็นอะไรคนเราจะอยู่กันได้หรือไม่ได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งงานค่ะ การแต่งงานเป็นเพียงส่วนนึงของชีวิตคู่แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคู่ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนค่ะ ทางครอบครัวเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องแบบนี้

บ้านนี้ก็ท้องก่อนแต่งค่ะ ยังเรียนอยู่ด้วย แรกๆ ทางบ้านก็บ่น เสียใจ ปกติค่ะ เพราะหวังกับเรามาก ตอนนี้ทั้งแม่และครอบครัวสรรหาแต่ของมาให้กิน หวังบำรุงหลาน แต่รู้สึกที่กินไปจะลงแม่ซะหมด แม่ขึ้นมา 10 โลเบาๆ จ้าา ปล. ตอนนี้บ้านนี้ท้องได้ 6 เดือนแล้ว พาลูกในท้องไปเรียนด้วยทุกวันเลย