ท้องก่อนแต่ง...

เราก็ยังไม่ได้แต่งค่ะ เราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มาเกือบจะ 5 ปีแล้วค่ะ เริ่มจาก 0 ตอนนี้เรา 2 คนมีบ้าน มีรถ มีเงิน มีทองเก็บ มีทะเบียนสมรส ที่สำคัญเรามีก่อนที่จะมีน้องกันอีกค่ะ .. แม่บังคับให้เราแต่ง พูดตลอด แต่เรายังยืนยันคำเดิมว่าเราไม่แต่ง เพราะตอนนี้เรายังไม่พร้อม มีลูกต้องใช้เงินเยอะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราก็จะแต่งกันเอง เราไม่เคยน้อยใจอะไรเลย แค่เข้าใจกันก็พอค่ะ อีกอย่าง เราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว เลยมองเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ตอนนี้โฟกัสแค่ลูก วันๆนึงคิดแค่ว่า เขาโตขึ้น เราจะวางแผนชีวิตให้เขายังไงดี แล้วเราก็ไม่สนคำพูดคนอื่นเหมือนกันว่าจะพูดยังไง .. เรารู้แค่ตอนนี้ชีวิตครอบครัวเรา 2 คน สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว

การแต่งงานไม่ใช่ทุกอย่างครับ รุ่นน้องผมพอรู้ว่าทำแฟนท้องเขาก็ไปบอกกล่าวผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย และบอกถึงเหตุผลว่าไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะจัดงานแต่งตอนนี้ ทางผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ได้บังคับ จนลูก 10 ขวบเขาพร้อมที่จะจัดงานแต่ง เขาก็จัดงานกัน และมีลูกร่วมงานด้วยผมว่าภาพแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ ชีวิตคนเราจะมีความสุขได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขั้นตอน ลำดับ ที่มีคนกำหนดว่าเป็นประเพณีที่ต้องทำ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าการทำตามลำดับขั้นตอนประเพณีไม่ดีนะครับ แต่ชีวิตคนเราไม่ต้องเพอร์เฟกทุกเรื่องก็ได้ครับ คิดแบบนี้ชีวิตจะได้ไม่ตึง ไม่หย่อนเกินไปครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ และขอให้เจ้าตัวเล็กแข็งแรง มีสุขภาพดีกันทั้งครอบครัวนะครับ

เราแต่งนะคะ แต่ถ้าย้อนไปได้ไม่อยากจัดงานเลย น่าจะเอาสินสอดมาไว้เลี้ยงลูก แต่แต่งก็ดีค่ะเป็นความฝันของหลายๆคน เราเองแต่งแต่ไม่มีรูปสวยๆเลย งานเรามีอะไรหลายๆอย่างไม่ได้ดั่งใจ เลยรู้สึกเฟลๆ ตอนนี้รอคลอดตัวเล็กแล้วไปถ่ายรูปพรีใหม่เก็บภาพไว้ดู แถมพิเศษกว่าเดิมด้วยค่ะมีตัวเล็กในภาพด้วยแม่ไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าแม่อยากมีรูปสวยๆค่อยมาถ่ายตอนพร้อมก็ได้ ตอนนี้มีค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างเลย ถ้าแม่อยู่กับพ่อแล้วมีความสุขดีก็ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะว่าจะท้องก่อนแต่ง เดี๋ยวนี้การแต่งงานก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป บางคนจัดงานใหญ่โตได้หน้า แต่ต้องเป็นหนี้ใช้ชีวิตก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ

อย่าน้อยใจไปเลยนะคะแม่ ขอแค่แม่กับพ่อจับมือกันไว้ ช่วยกันประคับประครองความรักให้ถึงจุดหมายปลายทาง สร้างอนาคตรอเจ้าตัวน้อย เมื่อเจอหน้าลูก แม่จะมีพลังขึ้นมามหาศาลเลยค่ะ ... แม่อยากให้แม่คิดเสียแต่ว่า วันนี้เรายังรักกันอยู่ ก็เพียงพอแล้ว การแต่งงานไม่ได้การันตีว่าจะรักกันจนวันสุดท้ายเสมอไปนะคะแม่ บางคู่ไม่ได้แต่ง อยู่จนลูก2-3คนก็มี บางคนจัดงานแต่งงานใหญ่โต แต่ก็เลิกรากันไปก็มี ... ไว้รอเจ้าตัวเล็ก แล้วมีโอกาสค่อยผูกข้อไม้ข้อมือก็ได้นะคะ เอาเจ้าตัวเล็กเป็นสินสอดไปเลยค้า ตายายชอบแน่นอน 😊😊 แม่ขอเป็นกำลังใจให้แม่ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้นะคะ สู้ๆค่ะ เพื่อเจ้าตัวเล็ก ❤

ตัดภาพมาที่เรา ทะเบียนสมรสยังไม่คิดจะไปจดเลยค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อไหร่ที่สามีออกนอกลู่นอกทาง สิทธิ์ในการดูแลลูกอยู่ที่เรา 100% ส่วนเรื่องงานแต่งเรามองว่าสิ้นเปลืองเอาเงินจัดงานไปเป็นขวัญถุงเปิดบัญชีไว้ให้ลูกดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องราวความทรงจำที่เราอยากให้ลูกได้เห็น ก็จะเป็นโมเมนต์หรือเรื่องราวต่างๆที่เราผ่านกันมา ในทุกๆเทศกาลในแต่ละปีเราไปที่ไหนทำอะไรเก็บบันทึกเป็นภาพถ่ายไว้ให้ลูกได้ดูว่ากว่ามีเขาทั้ง 2 คน พ่อกับแม่ผ่านอะไรกันมาบ้าง สำหรับเราแค่ในทุกๆวันได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา 4 คนพ่อแม่ลูก แค่นี้มันก็มีความสุขมากๆแล้วค่ะ

แม่ต้องปล่อยวางเรื่องนี้ค่ะ เค้าก็เป็นคนนึงที่ท้องก่อนแต่ง จนตอนนี้ลูกคลอดออกมาได้เดือนกว่าแล้ว ก็ยังไม่ได้แต่ง แต่สามีพาไปจดทะเบียนสมรส ครอบครัวฝั่งสามีก็ไม่สนใจใยดีเหมือนกันค่ะ ส่วนฝั่งเค้าพ่อแม่ก็ไม่รู้ เพราะเค้าคิดว่สถ้าพ่อแม่ฝั่งเค้ารู้ ท่านจะเลี้ยงหลาน แล้วเค้าไม่อยากให้คนหัวโบราณเลี้ยงลูก เพราะท่านจะให้ลูกทานอาหารหรือน้ำตามคำโบราณ ซึ่งปัจจุบันมันไม่ดีกับเด็กสักเท่าไหร่ ส่วนฝั่งสามี เราก็ไม่ให้เจอลูกเลยค่ะ เพราะฝั่งนั้นเขาทำให้เข็ด จนไม่อยากแม้แต่จะเยี่ยม ของเค้าหนักกว่าแม่เยอะค่ะ สู้ๆนะคะ เดี๋ยวก็ผ่านไปได้นะคะ❤️

คนที่แต่งแล้วเลิกกันก็มีเยอะแยะ การแต่งงานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตคู่ การประคับประคองชีวิตคู่ สำคัญกว่า แรกๆ เราก็เคยน้อยใจ แต่พอผ่านไป อายุเยอะขึ้นก็คิดได้ว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง ไม่ได้ทำให้ชีวิตรักเราดีขึ้นเลย ยุ่งยาก เสียเวลา สิ้นเปลือง เอาเงินไว้เลี้ยงดูลูกดีกว่า ถ้าคนสองคนเข้าใจกัน ตั้งใจจะสร้างชีวิตครอบครัวด้วยกัน แค่จดทะเบียนสมรส มันก็เพียงพอแล้ว เป็นกำลังใจให้นะคะ เคยผ่านความคิดนั้นมาเหมือนกัน แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เรามีชีวิตเดียวก็จริง แต่เราไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองค่ะ เราเกิดมาใช้ชีวิตเพื่อคนที่เรารักค่ะ

ผู้ใหญ่ที่บ้านเคยคุยเรื่องแต่งไว้แล้วค่ะ แต่ท้องก่อน พอท้องตัวเราเองก็ไม่อยากจัดงานเพราะแพ้ท้องหนักมาก พ่อแม่เราเป็นคนชิวๆ จัดหรือไม่จัดก็ได้ ส่วนพ่อแม่แฟนก็ตามใจเรา แม่แฟนอยากให้ถ่ายรูปพรีไว้เอาไว้ดู ของเราแค่ถือดอกไม้ขัน5ขอขมาพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเฉยๆ ตอนนี้คลอดน้องได้2เดือนแล้ว ที่บ้านไม่คิดเรื่องจัดงานแล้วค่ะ คิดแค่เก็บเงินไว้ให้ตัวเล็ก ถ้าแม่ท้องอยู่เป็นเพราะฮอร์โมนของแม่ด้วย น้อยใจอะไรหลายอย่าง เราก็เป็นค่ะ พอเห็นหน้าลูกเราจะเลิกคิดเรื่องพวกนี้ไปเลย เราจะโฟกัสที่ลูกคนเดียว ส่วนปู่ยาตายายหลงหลานมากๆ

ไม่แต่งงานก็มีความสุขได้ค่ะ บ้านเราไม่ซีเรียสเรื่องแต่งงานเลยค่ะ ส่วนเรื่องผูกข้อมือก็ไม่ได้ผูก ทุกวันนี้มีความสุขดี แฟนดูแลดี ถามว่าพร้อมแต่งก็แต่งได้ค่ะ แต่เก็บเงินให้ลูกดีกว่าค่ะ สมัยนี้เงินทองหายาก เคยวาดฝันงานแต่งเหมือนกัน เคยน้อยใจทำไมไม่ได้แต่ง แต่ด้วยความเป็นคนไม่ยึดติด ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย บวกกับทำงานหนักมาตลอด เวลาไม่อยากเอาเงินมาจ่ายกับเรื่องแบบนี้ ไหนค่าชุด ค่างาน ค่าอาหารเครื่องดื่ม จิปถะเยอะมาก งานแต่งไม่เป็นเครื่องวัดความสุข ความสุขอยู่ที่คนสองคน +ลูกน้อยที่น่ารักค่ะ

ของเรา ผูกแขนบายศรีธรรมดา 2ครั้ง รอบนี้ท้องได้เกือบ3เดือน ทางแม่แฟนจัดงานแต่งให้งานเกือบใหญ่หมดไปเกือบ2แสนเลย. แค่อยากเล่าว่าเราว่า จัดหรือไม่จัดการใช้ชีวิตคู่และการเข้าใจสำคัญกว่าค่ะ เอาไว้พร้อมค่อยทำเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ส่วนตัวไม่เคยคลาดหวัง ถึงเวลาเราคิดว่าเดี๋ยวก็ได้จัดเองค่ะ. ขนาดเรามีพิธีมาก่อน เรายังอยู่กันไม่นานรอบนี้กะไม่แต่งแต่โชคดีอยู่บ้าง ได้แต่ง. เราคิดว่าถ้าไม่พร้อม เก็บเงินเลี้ยงลูกดีสุดตอนนี้โฟกัสที่ลูกดีกว่าค่ะ ยังต้องมีค่าใช้อีกมากมายค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ