💙แบ่งปันประสบการณ์คุณแม่มีลูกยาก คุณแม่ต้องหาทางเลือกให้กับตัวเองในสถานการณ์ COVID
#IUI #มีลูกยาก #ประสบการณ์IUI
🔹️ตอนนี้อายุ 38 ค่ะ ปล่อยมีน้องมาประมาณ 1 ปี กินโฟลิกมาตลอด เริ่มคุยกับแฟนค่ะ ว่าเราต้องไปหาหมอแล้วล่ะ ดูว่าเราทั้งคู่เป็นอะไรรึเปล่า แนะนำเลยนะคะสำหรับคู่รักที่กำลังจะมีน้อง ถึงจะพร้อมหรือไม่พร้อม แนะนำให้ตรวจร่างกายก่อนมีบุตรเลยค่ะ จะทำให้เราทราบว่า เราทั้งคู่สุขภาพเป็นอย่างไร
🔹️เรา 2 คนเลยจูงมือกันไปหาคุณหมอเฉพาะด้านสูตินรี และขอคำปรึกษา เบื้องต้นก่อนที่จะไปคลินิก ได้หาข้อมูลด้วยตัวเอง ทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน ราคาในการตรวจร่างกายทั้งชายหญิงราคาพอ ๆ กัน เลยตัดสินใจที่คลินิกเลยค่ะ เร็วดี วันที่เราจะไปตรวจทางคลินิกจะนัดให้ตรงกับวันที่เรามีประจำเดือนวันที่ 2 นะคะ ส่วนผู้ชายก็ไปได้เลยค่ะ
🔹️ไปถึงคลินิก กรอกประวัติ ซักถามข้อมูล เจาะเลือดทั้งชายหญิง ส่วนผู้ชายต้องไปหลั่งน้ำเชื้อที่ห้องเพื่อนำเชื้อไปตรวจค่ะ และคุณหมอนัดฟังผลอีกครั้งพร้อมอัลตราซาวด์ผู้หญิงค่ะ ผลปรากฎว่า สำหรับเราทั้งคู่ไม่มีใครเป็นธาลัสซีเมียและพาหะ สบายใจในจุดนี้ พี่ผู้ชาย คุณหมอจะแจ้งผลของคุณภาพน้ำเชื้อ อัตราการหลั่ง ความเร็วของอสุจิ ส่วนผู้หญิงก็จะแจ้งผลเรื่องมดลูกว่ามีความปกติหรือไม่ สรุปตัวเราเองที่มีปัญหาเรื่อง ผนังมดลูกหนาค่ะ เลยทำให้มีลูกยากนั่นเอง😑
🔹️มาถึงตรงนี้ กลุ้มใจอยู่แปบนึงค่ะ คุณหมอแจ้งว่า ผนังมดลูกจะหายไปได้ด้วยวิธีการรักษา มี 2 วิธี 1.ส่องกล้องผ่า 😢 2.มีน้องแล้วผนังจะหายไป 🤔 มาถึงข้อ 2 งงนิดหน่อยค่ะ คุณหมอเลยแจ้งว่าถ้ามีลูกผนังตรงนี้ก็จะหายไปและดีขึ้นตามกลไกธรรมชาติค่ะ ไม่ได้อันตรายใด ๆ
🔹️ถึงเวลาตัดสินใจในการทำ IUI หลังจากได้ฟังผลเรื่องสุขภาพทั้งคู่ เต็ม 100% คุณหมอให้ 70 - 80% เมื่อเทียบกับอายุของเรา 38 ของแฟน 41 ปี การรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากคร่าว ๆ
💚การฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI)
💚การปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF, ICSI)
🔹️ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำวิธีการไหนก็แล้วแต่ คุณหมอจะแจ้งรายละเอียดทั้งหมดว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน รวมถึงราคาในขั้นตอนต่าง ๆ (ตรงนี้สำคัญมาก) การทำ IUI เป็นวิธีแรกที่ค่าใช้จ่ายถูกที่สุดและใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดและเหมาะสำหรับคู่รักที่มีสุขภาพร่างกายค่อนข้างแข็งแรงไม่ได้ผิดปกติอะไรมากนั่นเอง หลังจากที่เราได้รับข้อมูลจากคุณหมอแล้ว ก็ตัดสินใจทำทันที
🔹️ในการตัดสินใจการทำ IUI ของเรานะคะ เราศึกษาหาข้อมูลจาก internet จากคนที่เคยทำทั้งประสบความสำเร็จและไม่สำเร็จ ผลปรากฎว่า ได้รับคำแนะนำให้ไปทำที่กรุงเทพบ้าง ที่นั่นบ้าง ที่นี่บ้าง แต่เราลองเทียบเคียงราคาในขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำ iui แล้วราคาจะแตกต่างกันไปตาม service ของคลินิกและโรงพยาบาลต่าง ๆ ค่ะ ท้ายที่สุดเหตุผลที่เราตัดสินใจทำที่นี่ (ชลบุรี) คือ ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก ราคาจับต้องได้ไม่เครียด เหตุผลที่สำคัญที่สุด!!!!คือ เราต้องไม่เครียดค่ะ พักผ่อนให้เพียงพอทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายบ้าง
🔹️มาถึงขั้นตอนต่าง ๆ ค่ะ
🔸️ตรวจร่างกายชายหญิง 7,500 บาท (ครั้งแรก)
🔸️นัดฟังผลพร้อมซาวด์ผู้หญิง (4,000 บาท) ในครั้งนี้เราตัดสินใจทำ IUI คุณหมอจะให้ยากระตุ้นให้มีการตกไข่ (สำหรับผู้หญิง พี่ผู้ชายได้วิตามินบำรุงร่างกายค่ะ)
🔸️นัดครั้งต่อไปทานยาจนครบ คุณหมอจะนัดวันที่ไข่ตก เพื่อมาซาวด์ เชคว่ามีไข่ตกประมาณกี่ฟอง และจะนัดวันที่ฉีดน้ำเชื้อค่ะ ในครั้งที่ 1 ปรากฎว่า ไข่ตก 2 ฟอง สภาพโอเค หลังจากนั้น 2 วัน คุณหมอจะนัดฉีดน้ำเชื้อเราค่ะ (ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 บาท ได้ยามาฉีดตัวเองก่อนที่จะฉีดน้ำเชื้อ 1 วัน จำไม่ได้ค่ะว่าเป็นยาอะไร น่าจะเกี่ยวกับการกระตุ้นการตกไข่ประมาณนี้นะคะ ฉีดยาด้วยตัวเองในครั้งแรกในชีวิต OMG ตื่นเต้นสุด ๆ ค่ะ ต้องฉีดตอน 06.00 น. เช้านะคะ
🔸️มาถึงวันฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียดอย่ากังวลค่ะ พอถึงเวลานัด เค้าจะให้พี่ผู้ชายไปหลั่งน้ำเชื้อและเตรียมกระบวนการประมาณ 40 - 50 นาที หลังจากนั้น มาถึงเวลาเราแล้วค่ะ😢 กลัวมากนะคะตอนแรก แอบหวั่นว่าจะเจ็บมั้ย พอถึงเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนบนเตียงขาหยั่ง คุณหมอจะฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกเราค่ะ ไม่เจ็บนะคะ แต่กระบอกของน้ำเชื้อจะเข้าไปลึก ๆ หน่อย (แอบรู้สึกได้ค่ะ) หลังจากนั้นคุณหมอจะให้เรานอนนิ่ง ๆ ยกก้นสูงด้วยหมอนประมาณ 20 นาที เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
🔸️พอฉีดน้ำเชื้อเสร็จคุณหมอก็จะแจ้งผลในวันนี้ว่า คุณภาพน้ำเชื้อผู้ชายเป็นยังไง โอกาสที่ประสบความสำเร็จกี่เปอร์เซนต์ และแนะนำเราในกาดูแลตัวเองต่าง ๆ เช่น ห้ามยกของหนัก ห้ามออกกำลังกายแบบหนัก ๆ ค่ะ อีก 2 สัปดาห์เราจะมาเจอกันอีกครั้งในการตรวจการตั้งครรภ์ แต่ถ้าเรามีประจำเดือนมาก็แสดงว่า ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ 😑 (ค่าใช้จ่ายฉีดน้ำเชื้อ 6,500 บาท)
🔸️มาถึงวันนัดตรวจ ปรากฎว่าาาาา ประจำเดือนมาตรงวันนี้เลยจริง ๆ เสียใจเล็กน้อยค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอลองอีกสักครั้ง คุณหมอจะสอบถามเราค่ะว่าจะไปต่อมั้ยหรือจะพักก่อน แต่เราทั้งคู่ตกลงกันแล้วค่ะว่าจะทำต่อ ในครั้งนี้ก็เช่นเคยคุณหมอจะให้ยาผู้หญิงมาทานในการกระตุ้นการตกไข่ (2,000บาท) และจะนัดมาพบอีกครั้งเพื่อซาวด์ค่ะ กระบวนการและค่าใช้จ่ายเหมือนเดิมค่ะ
🔸️ในครั้งที่ 2 เราได้เรียนรู้จากครั้งแรกว่า เราอาจจะเครียดเกินไป คาดหวังกับการทำ IUI มากเกินไป ครั้งนี้ ทำตัวชิลล์ๆเลยค่ะ ทานอะไรได้ทาน แต่เน้นให้มีประโยชน์นะคะ นี่ก็ยังแอบชาเขียว โกโก้ บ้าง อดไม่ได้ สำคัญที่สุดค่ะ!! พักผ่อนให้เพียงพอ
🔸️มาถึงวันตรวจไข่ตกค่ะ ปรากฎว่ารอบสอง ไข่ตก 3 ฟอง 😆😆😆 โอ้โหดีกว่าครั้งแรก ลืมบอกทุกคนไปนะคะว่า ความเสี่ยงในการทำ IUI คือ
1.เลือกเพศน้องไม่ได้
2.เป็นวิธีที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด การประสบความสำเร็จในแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันนะคะ และข้อ 3.คุณอาจจะได้ลูกแฝดค่ะ!!! เนื่องจากการทำ IUI เป็นการกระตุ้นโดยการกินยาหรือฉีด ให้มีจำนวนไข่ตกมากที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ค่ะ
🔸️และเหมือนเดิมค่ะคุณหมอนัดฉีดน้ำเชื้ออีกสองวันหลังจากนั้น กระบวนการเหมือนเดิมค่ะ
🔸️ผลปรากฎว่าในการนัดตรวจการตั้งครรภ์ รอบนี้ น้อนนนมาแล้วค่ะ 🙂 ในรอบนี้คุณหมอจะให้ยามาทานค่ะ ตามประสาชาวบ้านง่าย ๆ คือยากันแท้ง ประมาณนี้
🔸️ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จคร่าว ๆ ในการทำ IUI 2 ครั้ง ประมาณ 32,000 บาท
🔸️หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการการฝากครรภ์ต่อไปค่ะ
💙เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนั้นอาจจะใช้คำพูดทางการแพทย์ไม่ถูกบ้างต้องขออภัยนะคะ อยากจะแบ่งปันประสบการณ์สำหรับผู้มีบุตรยาก และมีอายุมาก ๆค่ะ สิ่งสำคัญคือ สภาพเศรษฐกิจของเรานะคะว่าเราไหวมั้ยกับค่าใช้จ่าย และอย่าคาดหวังจนทำให้เราเครียดมากเกินไปค่ะ เลือกทำกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ใกล้ ๆ เราจะดีมากค่ะ เราคิดแบบนี้จริง ๆ
💙มีน้องในสถานการณ์ COVID แบบนี้ ก็จะเครียดหน่อย ๆ ค่ะ แต่เราคิดว่าถ้าช้าไปกว่านี้ สุขภาพเราจะไม่โอเคแล้วค่ะ
🙂 ให้กำลังใจทั้งตัวเอง และผู้หญิงทุก ๆ คนนะคะที่วางแผนจะมีน้อง🙂