เริ่มจากการที่เราตรวจเจอว่าตั้วครรภ์แต่ยังไม่ได้ไปฝากท้อง เราทำงานปกติ วันที่16 สังเกตุเห้นมีเลือดซึมกระดาษทิชชู่นิดๆ วันที่17 มีเลือดออก ไม่มากเหมือนประจำเดือน ใส่ผ้าอนามัยไว้+ ปวดท้องเหมือนประจำเดือน ตอนค่ำวันนั้น เราได้ไปหาหมอฉุกเฉิน ได้รับการอัลตร้าวซาว และตรวจภายใน หมออัลตร้าซาวแจ้งว่า เจอถุงตั้วครรภ์อยุในมดลูกปกติ แต่ยังไม่เห้นตัวเด็กอาจจะเพราะอายุครรภ์ยัวน้อย ตรวจภายใน ปากมดลูกปิดปกติ เลือดที่ออกอาจจะเป้นเพราะเดินเยอะ ยืนเยอะเวลาทำงาน มห้ยาพาราแก้ปวดท้องกลับมานัดซาวอาทิตย์หน้า พอรุ่งเช้าวันที่18 อาการปวดท้องยังไม่ดีขึ้นปวดหนักกว่าเดิเลือดออกเยอะขึ้นเริ่มมีเลือดเป็นก้อนออกมา รีบกลับไปรพ. หมอแจ้งว่า แม่มีภาวะแท้งคุกคาม ตอนนี้50/50 อาจจะยังอยุ หรือไม่แล้วก็ได้ ให้แม่พักงาน7วัน แต่ระหว่างนี้ให้สังเกตถ้ามีเลือดออกเยอะให้รีบกลับมารพ. แล้วให้ยาพารากับโฟลิคมา เรากลับถึงบ้านไท่ถึง10นาที รีบกลับไปใหม่ เพร่ะปวดท้องหนัก เลือดเริ่มออกเยอะไหลไม่หยุด ปวดท้องเจ็บๆหายๆ เวลาปวดท้องเลือดก็จะไหลทะลักม่ก แล้วก็หาย แล้วก็เจ้บใหม่อีก เป้นแบบนี้เรื่อยๆ แจ้งหมอ หมอพาไปอัลตร้าซาว ก็เหมือนเดิมเจอถุงตั้งครรภ์ แต่เรอ่มปวดท้องมาก เลือดออกเยอะ เลยตรวจภายในอีกรอบ ทีนี้เลือดมันทะลักออกมาเยอะ หมอบอกให้เผื่อใจนะ เลือดออกเยอะแล้วอาจจะหลุดแล้ว ตรวจภายในหมอแจ้งว่า น้องหลุดแล้วแต่ยังหลุดไม่หมด ต้องส่งต่อรพ.เมือง อัดผ้าก็อซห้ามเลือดไปให้แม่ ระหว่างส่งตัว ยังมีเจ้บท้องอยุเรื่อยๆ เลือดก็ยังไหลไม่หยุด ไปถึงรพ.เมือง หมอเอาผ้าก็อซห้ามเลือดออก ก็มีก้อนเลือดติดมาเล็กน้อย เดินไปห้องตรวจกำลังจะขึ้นเตียงตรวจ ก้อนเลือดก้อนใหญ่เท่าจาน ก็หลุดตกลงบนพื้น เราเสียเลือดม่ก หมอตรวจภายใน อล้วอัลตร้าซาวปรากฎว่าในมดลูกไม่มีอะไรแล้ว เราแท้งครบ แท้งน้องหลุดออกมาเอง ไม่ต้องขูดมดลูก อาการปวดท้องก็หายไป เลือดเริ่มหยุดไหล เราเสียใจมากๆ ที่ทำอะไรช่วยเหลือลูกตัวเอง รักษาอะไรไว้ไม่ได้เลย แย่ทั้งร่างกายทั้งสภาพจิตใจ อยากจะขอเตือนคุณแม่ ถ้าทีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ เราเองขนาดรีบพบแพทย์ไปรพ.ตั้งหลายรอบยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มากเลยคะมูฟออนไม่ได้เลย อยากถาทแท่ๆที่มีประสบการณ์แท้ง มีวิธีการรับมือยังไงบ้างคะหลังแท้ง สุดท้ายหมอแจ้งเราว่าเราแท้งครบ น้องออกเองหมดไม่ต้องขูดมดลูก อยากจะขอเตือนแม่ๆที่ทำงานหนัก ถ้ามีเลือดออกแบบนี้อย่าฝืนทำงานนะคะรีบพบหมอให้เร็วที่สุด#บทเรียนครั้งใหญ่
อนงค์นาถ ตรีไวย