ขอแชร์ประสบการณ์การคลอดธรรมชาตินะคะ คือตอนที่เราคลอดน้องคนแรกคือตอนอายุครรภ์ 38w+2 ค่ะ กำหนดคลอดน้องจริงๆคือกลางเดือนกุมภาแต่น้องเกิดต้นเดือนกุมภา อาการก็แทบจะไม่มีอะไรเลยค่ะช่วงนั้นเป็นเวลา 20:00 แม่ก็นั่งกินข้าวปกติแต่ก็รู้สึกได้ถึงความแข็งของท้องแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอสักเวลา 21:30 แม่เลยมานอนดูหนังมันก็ยังแข็งอยู่แต่มันไม่ได้เจ็บท้องหรือมีอาการอื่นเลยก็เลยไม่ได้ใส่ใจ จนเวลา 23:00 ความรู้มานิดๆเป็นสัญญาณ ตอนนั้นคือท้องแข็งไม่ยอมคลายตัว แล้วรู้สึกแข็งเพิ่มขึ้นจนรู้สึกว่าหน้าท้องตึงมากเลยคิดว่าผิดมันผิดปกติละ เลยไปโรงบาล ถึงโรงบาลเกือบเที่ยงคืน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องแอดมิดเลย เพราะเคยเห็นคนบอกว่าจะคลอดจะปวดท้อง น้ำคร่ำแตก อะไรพวกนี้ แต่แม่ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากท้องแข็ง นึกว่าน้องโก่งตัวเล่นหรือท้องปั้นแบบนี้ จนพอเข้าห้องฉุกเฉินหมอเลยมาเช็คแล้วบอกว่า " คุณแม่กลับบ้านไม่ได้แล้วน้า ปากมดลูกเปิด 2 เซนแล้ว เดี๋ยวหมอให้แอดมิดเลย " ความรู้สึกตอนนั้นคือ ไม่ได้ตั้งตัวแต่ดีที่เตรียมของไว้ในรถแล้ว พอเข้าห้องรอคลอดตอนนั้นเกือบตี 1 นอนรอชั่วโมงกว่าๆ หมอก็เลยมาสวนอุจจาระแล้วก็โกนขนจิมิ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จสักเวลาประมาณตี 03:30 หมอมาตรวจอีกรอบ ปากมดลูกเปิด 3 เซน หมอเลยบอกว่าคุณแม่เดี๋ยวหมอจะตัดถุงน้ำคร่ำแล้วนะจะได้เริ่มปวดท้องคลอด ( เพราะตั้งแต่แม่ไปถึงโรงบาลก็ยังไม่ปวดท้องเลย หมอเลยช่วยกระตุ้น ) แต่พอหลังจากตัดถุงน้ำคร่ำเท่านั้นแหละ ความเจ็บปวดเริ่มเพิ่มมากขึ้น อาการเจ็บท้องเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนอนไม่ได้ พลิกไปพลิกมาตลอด เริ่มไม่รู้เวลาละ มันปวดยิ่งกว่าการเป็นประจำเดือนแล้วไปกินน้ำเย็นซะอีก แต่พี่พยาบาลใจดีมากเดินมาแล้วให้เราจับแขนเขาไว้ ด้วยความที่ปวดท้องจับอะไรได้ก็จิกหมดเลยค่ะแม้กระทั้งแขนพยาบาล แต่พอหลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง หมอก็มาตรวจผลปรากฏว่าพากันเข็นเข้าห้องคลอดเลยค่ะ เพราะปากมดลูกเปิด 8 เซนแล้ว ( แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ ) พอเข้าไปถึงหมอก็มา ก่อนจะคลอดหมอจะตัดช่องคลอดให้กว้างอีกนิดนึงเพื่อเวลาน้องออกมาช่องคลอดจะได้ไม่ฉีก แต่ก่อนตัดหมอจะฉีดยาชาให้บริเวณช่องคลอดแต่แม่ดันไปเจอหมอจบใหม่แล้วดันพูดว่า " เคสแรกเลยนะเนี้ย " ตอนนั้นคือไม่ได้คิดอะไรเลยแค่อยากให้ลูกออกมาเร็วๆ มันทั้งเจ็บท้อง อยากเบ่ง แต่เบ่งไม่ได้ จนหมอฉีดยาชาเข้าไปปุ๊บ ไม่รอยาออกฤทธิ์เลยค่ะ ตัดช่องคลอดแบบสดๆเลย ความรู้สึกคือไม่รู้จะเจ็บอะไรก่อนดี จะร้องไห้กับเรื่องไหนก่อนดี จนแม่บอกว่าไม่ไหวแล้ว ( แต่ไม่ได้โวยวายตลอดนะคะ เป็นช่วงๆเท่านั้น หมอบอกถ้าใช้เสียงเยอะจะไม่มีแรงเบ่ง ) หมอก็เลยให้เริ่มเบ่ง แม่ใช้แรงเบ่งประมาณ 3 ครั้ง น้องก็ออกมา พอคลอดเสร็จเตรียมเย็บแผลช่องคลอด หมดก็ดันเย็บสดอีก ฉีดยาชาไปไม่ถึงนาที ( จะบอกว่ารู้สึกถึงการจิ้มเข็มแต่ละทีมาก ) มันเจ็บจนบอกหมอว่า " หมอมันเจ็บอยู่เลย " หมอเลยฉีดให้อีกเข็ม ก็เบาเจ็บลงมาได้บ้าง จนเสร็จ พี่พยาบาลเลยเข็นเราไปห้องรวม หลังจากนั้นสักประมาณชั่วโมงนึง พยาบาลก็มาคลึงมดลูกให้ ผลปรากฏว่า แผลช่องคลอดปริแตก แม่ตกเลือด เข้าห้องคลอดรอบสอง พอเข้ามาก็โล่งใจคนที่เย็บรอบสองเป็นอาจารย์หมอ ไม่ใช่หมอจบใหม่ เย็บเสร็จออกมาก็มาส่องไฟให้แผลช่องคลอดแห้ง หลังจากคลอดได้ 3 ชั่วโมง อีแม่เดินพริ้วเลยจ้า มันอาจจะเจ็บมากตอนรอคลอดแต่แผลหายไวกว่าผ่าคลอดมากค่ะ ได้เจอหน้าน้องไวด้วย ตอนนี้ท้องสองแม่ก็คิดจะคลอดธรรมชาติเหมือนเดิมค่ะ ( นี่แหละที่เขาว่า " วันเกิดลูก วันตายแม่ " ) มันทรมานมากจริงๆ แต่พอเห็นหน้าลูก ได้ยินเสียงลูกครั้งแรก ความเจ็บปวดที่เจอมามันหายไปเลยค่ะ " ยังไงก็ขอให้คุณแม่คลอดน้องง่ายๆเหมือนบ้านนี้นะคะ " ☺️
Kwanmueng Saengrawee