สวัสดีดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การฝากพิเศษที่คลินิกและผ่าคลอด เข้าเรื่องเลยน่ะค่ะ
แม่บ้านนี้ประจำเดือนวันแรกของครั้งสุดท้ายคือวันที่7ธันวาคมค่ะ แต่รู้ตัวตอนเดือนกุมภาพันธ์
ในเดือนมีนาคมแม่เข้าคลินิคเพิ่อฝากพิเศษ จนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคมคุณหมอไห้เลือกว่าผ่าคลอดหรือคลอดเอง แม่เลือกที่จะผ่าคลอดค่ะ เพราะฟังหลายๆด้านด้วย และอยากเจอลูกเร็วๆ วันที่2กันยายนหมอจึงนัดผ่าคลอด 6โมงเช้าถึงห้อมผ่าตัด เตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนรอจนถึง09:00มีพยาบาลเข็นเข้าห้องผ่าตัด วินาทีนั้นตื่นเต้นมากค่ะ ตอนนั้นชุนละมุนมาก ทั้งพยาบาลทั้งหมอ6คนเตรียมความพร้อม มีหลายแผนก แต่น่าเสียดายที่แม่บ้านนี้ดมยาสลบไม่ได้บล็อกหลัง จนผ่าคลอดเสร็จได้ยินเสียงลูกร้อง นาทีนั้นร้องไห้เลยค่ะ แต่หมอยังเย็บแผลไม่เสร็จ หมอจึงฉีดยาสลบลงไปอีก จนถึงห้องพักฟื้น พยาบาลไม่เข็นมาไห้แม่ดูเลยค่ะ บอกแค่ว่าเกล็ดน้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องเข้าห้องเด็กป่วย แม่ร้องไห้หนักมาก ในใจแม่อยากเดินไปดูลูกในห้องเด็กแต่ด้วยความเจ็บแผลผ่าคลอดถคงเดินไม่ได้ ผ่านไป1คืนและอีกครึ่งวัน ก็ยังไม่เจอลูก นอนร้องไห้ ถามคุณแม่ว่าลูกเราครบ32ไหม คำตอบที่ได้คือ ลูกเราปากแหว่งเพดานโหว่ ยิ่งใจหายเข้าไปใหญ่เลยค่ะร้องไห้ฟูมฟายไม่ฟังใคร จนหมอต้องฉีดยานอนหลับ พอแม่รู้หมอถึงอุ้ลูกออกมาไห้ค่ะ วินาทีนั้นคือเสียมาก ที่เลือกฝากคลินิกเพราะอยากไห้ครบสมบูรณ์ อะไรที่ดีต่อลูกในท้องกินหมด กินนมแอนมัม กินยาคบินิกที่ดีกว่าโรงพยาบาล มันคือความคิดของแม่ที่คิดว่าลูกจะครบสมบูรณ์ อันตร้าซาวด์ตลอดที่ไป แต่หมอบอกว่าลูกครบสมบูรณ์ ด้วยความที่อยากลุ้นหน้าลูกสาวเอง จึงไม่ขอซาวด์แบบ6มิติ นี้คือผบที่ได้จากการฝากพิเศษค่ะ
Rattikan Rintkom