แชร์ประสบการณ์คลอดลูกชายคนแรกค่ะตั้งใจคลอดเอง มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนผ่าคลอด

🌻 ต้องบอกก่อนว่าอาจจะยาวนิดหนึ่งนะคะแม่ๆที่กำลังอ่านอยู่แม่อยากเขียนไว้เป็นความทรงจำด้วยค่ะ 💓 👶🏻 มีเด็กแอบแตกก่อนวันที่ 16-11-65 ครับ เริ่มต้นเมื่อวันที่ 3-11-65 แม่อายุครรภ์ 38W+1 เล่าก่อนแม่รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงทั้งวันแม่นับลูกดิ้นได้ไม่ถึง 10 ครั้ง แม่เลยตัดสินใจมาหาหมอทั้งที่วันที่ 6-11-65 ก็จะถึงวันหมอนัดปกติ แต่ก่อนหน้านี้แม่มีมูกเลือดออกมาได้ 2 วัน แล้วก็หายไป แม่ก็มีเจ็บหน่วงท้องบ้าง นอนไม่หลับมา 2 คืน เจ็บร้าวลงมาที่หลังไปขา 🥲 แม่มาถึงโรงพยาบาล 18.30 พอมาถึงโรงพยาบาลป้าหมอก็ให้แม่ไปติดเครื่อง NST ติดได้ 30 นาที ป้าหมอเดินเข้ามาหาคุณแม่แล้วบอกว่าการบีบตัวของมดลูกแม่บีบถี่มาก 5-7 นาทีต่อครั้ง (ทั้งที่แม่ยังไม่รู้สึกอะไรเลยก่อนหน้านี้) นอกจากอาการหน่วงท้อง ป้าหมอเลยขอเช็คปากมดลูก สรุปปากมดลูกแม่เปิด 1.25 ป้าหมอเลยให้แอดมิดอยู่โรงพยาบาล (ป้าหมอบอกว่าปล่อยกลับไม่ได้มดลูกบีบถี่และปากมดลูกก็เปิดแล้วนิ่มด้วย) ทั้งที่แม่ยังไม่ได้เตรียมใจมาคลอด 😂 แม่มาหาป้าหมอด้วยลูกดิ้นน้อยลง สรุปมาหาป้าหมอลูกชายตัวน้อยที่อยู่ในท้องดิ้นเก่งโชว์หมอเลย 🥰 เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ➡️ สรุปคืนนั้นแม่ก็ได้แอดมิดเป็นที่เรียบร้อย แต่แม่จองห้องคลอดพิเศษไว้เลยอุ่นใจมีสามีอยู่ข้างๆตลอดเวลา 👨‍👩‍👦 พยาบาลก็ให้แม่ไปกินข้าวอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้เสร็จ พยาบาลก็จะมาใส่สายน้ำเกลือ และป้าหมอก็สั่งงดข้าวงดน้ำแม่ตอน 2 ทุ่มครึ่งทันที พยาบาลก็ติดเครื่อง NST ตลอดเวลาเพื่อวัดการเต้นหัวใจของน้องกับการบีบตัวของมดลูกแม่ จากที่แม่ไม่รู้สึกปวดท้องเริ่มปวดท้องขึ้นมาระดับ 1 ทุก 1 ชั่วโมงก็จะมีพยาบาลเข้ามาตรวจวัดความดันวัดอุณหภูมิเรื่อยๆ จนเวลา 4 ทุ่มครึ่งพยาบาลก็จะมาโกนขนน้องสาวเราและส้วนก้นเราเรียบร้อยเพื่อปากมดลูกแม่เปิดเร็ว ต้องบอกก่อนว่ามดลูกแม่บีบตัวถี่จาก 5-7 นาที แล้วมาเป็น 3-4 นาทีต่อครั้งป้าหมอเลยยังไม่อยากให้ยาเร่งคลอดปล่อยให้เป็นธรรมชาติก่อน 💕 จนเวลาผ่านไปตี 3 พยาบาลวิชาชีพเข้ามาเช็คปากมดลูกแม่ก็ยังไม่เปิดเพิ่มยังเท่าเดิม 🥹 แต่มีมูกเลือดไหลป้าหมอเลยให้ยาเร่งคลอดแม่ทันที พอได้ยาเร่งคลอดจากปวดระดับ 1 ก็เพิ่มขึ้นมาระดับ 3 อารมณ์ปวดท้องประจำเดือนสรุปทั้งคืนแม่นอนไม่หลับเลย จนเวลาผ่านไปถึงตี 5 พยาบาลเดินมาดูบอกกราฟการบีบตัวมดลูกแม่ถี่มากก ขอเช็คปากมดลูกหน่อยค่ะ พอเช็คอีกรอบสรุปปากมดลูกแม่ก็ยังเท่าเดิม 😭 จากตอนแรกหัวลูกเข้ามาอยู่อุ้มเชิงกรามตอนที่แม่อัลตราซาวด์สรุปตอนนี้หัวลูกลอยไม่ยอมลงมา แม่เริ่มใจหวิวๆและพยาบาลก็เชียร์ให้แม่ผ่าคลอดเพราะแม่นอนรอมา 10 ชั่วโมง แต่แม่ยังอยากคลอดเองเลยขอรอก่อนยังไม่ยอมถอดความตั้งใจ 🥰 สรุปแม่ได้ยาเร่งคลอดจากป้าหมออีกรอบตอนเวลา 7 โมงที่นี้ความปวดเพิ่มขึ้นมาระดับ 4-5 ตามความบีบตัวของปากมดลูก เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงป้าหมอเข้ามาเช็คปากมดลูกสรุปก็ยังไม่เปิดเพิ่มเด็กก็ยังหัวลอยไม่ยอมเอาหัวลงมา ป้าหมอก็เริ่มอยากให้ผ่าล่ะ แต่แม่ยังขอยืนยันว่าจะนอนรอดูก่อน ทั้งที่ตอนนั้นป้าหมอและพยาบาลบอกโอกาสที่แม่จะคลอดเองได้ 50/50 ป้าหมอเลยตัดสินใจเจาะน้ำคว่ำเพื่อให้ลูกต้องออก พอป้าหมอเจาะน้ำคว่ำเท่านั้นแหละ + ยาเร่งคลอด ความปวดมาหาแม่ระดับ 7-8 ทันทีแต่แม่ว่าแม่ทนไหวผ่านไป 30 นาทีพยาบาลมาถามแม่ไหวไหม แม่บอกไหวค่ะ นาทีนี้ต้องบอกว่าความเจ็บเริ่มปวดขึ้นเรื่อยๆจนสามีถามว่าผ่าไหมแต่เรายังอยากคลอดเองอยู่ สามีบอกสงสารแม่แล้วนะ พยาบาลก็เข้ามาถามตลอดว่าคุณแม่เอายาแก้ปวดไหมแม่ก็ยังยืนยันไม่ขอยาแก้ปวดจะว่าแม่โรคจิตก็ได้นะ 🤣 แม่อยากรู้ว่าจะเจ็บแค่ไหนกันแม่อ่านรีวิวแม่ๆที่คลอดเองกันบอกว่าเจ็บมากๆ แม่ก็เลยอยากลองความเจ็บปวดดู 555 (สรุปเจ็บมากและเจ็บถี่ขึ้นตามแรงบีบตัวของมดลูกแม่แนะนำขอยาแก้ปวดกับพยาบาลนะคะไม่ต้องอยากลองแบบแม่ 😆) จนเวลาผ่านไปบ่าย 2 ครึ่งป้าหมอเดินเข้ามาตรวจปากมดลูกอีกครั้งสรุป ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มลูกยังหัวลอยอยู่นาทีนั้นสามีที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมาทันทีว่าผ่าเลยครับ แม่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรแล้วสามีก็พูดกับแม่ว่าไม่ต้องรอแล้วนะแม่พ่อสงสารผ่ากันดีกว่าอย่างน้อยๆแม่ก็ได้พยายามอยากให้ลูกออกมาธรรมชาติแล้ว แต่ตอนนี้พ่อสงสารแม่แม่ยอมผ่านะ แม่นี้น้ำตาไหลเป็นทางเลย 🥹 สรุปแม่ยอมผ่าเพราะคำพูดของคุณพ่อ แม่โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด 14.45 นาที ในห้องนั้นพยาบาลเยอะมาก 7 คนได้ที่แม่นับได้ มีหมอวิสัญญี 1 คน หมอเด็ก 1 คน ป้าหมอที่แม่ฝากครรภ์ด้วย 1 คน ต้องบอกก่อนแม่มีประสบการณ์ผ่าตัดใหญ่มาก่อนแล้วนะ แต่รอบนี้ไม่เหมือนกันพอแม่เข้าห้องผ่าตัดไปสิ่งแรกที่แม่เจอคือหมอวิสัญญีเข้ามาอธิบายการฉีดยาบล็อคหลังต่างๆ นาทีนั้นบอกเลยแม่ตื่นเต้นหูดับไปแล้ว 555 พอหลังจากแม่บล็อคหลังเสร็จแม่ก็เริ่มช้าจากปลายเท้าขึ้นมาแถวลิ้นปี่ ก่อนจะเริ่มจะมีบุรุษพยาบาลมาอ่านข้อมูล แม่ชื่ออะไรอายุเท่าไหร่หมอแต่ละคนชื่ออะไร พยาบาลผู้ช่วยชื่ออะไรซึ่งแม่ต้องบอกนาทีนั้นแม่หูดับไปแล้ว 😅 ป้าหมอก็จะแจ้งแม่ว่าเริ่มผ่าตัดแล้วนะคะคุณแม่ ตอนนั้นแม่ไม่รู้สึกอะไรเลยจนมีพยาบาลมาดันลูกออกความรู้สึกแม่เหมือนพยาบาลกดจากลิ้นปี่ลงไปคือตอนนั้นแม่หายใจไม่ออกมากจนหมอวิสัญญีบอกแม่หายใจเข้าลึกๆนะคะ พยาบาลพยายามดันลูกออกครั้งที่ 3 4 ก็ยังไม่ออกจนป้าหมอพูดกับแม่ว่าน้องยังหัวลอยอยู่เลยออกยากมากค่ะคุณแม่ป้าหมอบอกกดอีก 2 3 ครั้งน่าจะออกแล้วนะคะคุณแม่จะได้เจอลูกแล้ว สรุปแม่โดนดันให้ลูกออก 7 ครั้ง ครั้งสุดท้ายแม่เกือบหายใจไม่ทันตอนนั้น แม่ได้ยินแต่เสียงป้าหมอบอกจะออกแล้วนะคะคุณแม่ แล้วทุกคนในห้องก็พูดพร้อมกันเกิด 15.12 ตอนนั้นแม่ไม่ได้ยินเสียงลูกร้องเริ่มใจเสียทำไมลูกไม่ร้องสักพักก็ได้ยินเสียงลูกร้อง อยู่ๆน้ำตาแม่ก็ไหลเองเป็นทางเลยได้แต่ถามหมอลูกแข็งแรงไหมค่ะ ห่วงลูกไปหมดจนแม่ลืมความเจ็บปวดไปหมดทุกอย่าง จนพยาบาลเรียกคุณพ่อเข้ามาถ่ายรูปแม่ร้องหนักกว่าเดิม 🥹🥲 และแม่ก็ได้รู้ซึ่งคำว่าแม่ทันที รักแม่ตัวเองมากขึ้นเป็น 100 1000 เท่าทันที 💕 พ่อเห็นพ่อแม่ได้แต่ถามพ่อว่าลูกเราน่ารักไหม แข็งแรงไหมพ่อ นาทีนั้นไม่ได้สนใจป้าหมอเย็บแผลเลย 555 พอถ่ายรูปเสร็จก็บอกพ่อตามลูกไปไม่ต้องเป็นห่วงแม่พ่อก็ดีใจทำอะไรไม่ถูกลูกก็ไม่กล้าจับ 🤣 เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงป้าหมอก็เย็บแผลแม่เรียบร้อย แล้วก็มีบุรุษพยาบาลคนเดิมที่อ่านข้อมูลก่อนผ่าตัดได้เดินมาหาคุณแม่บอกข้อมูล คุณแม่ว่าน้องเป็นผู้ชายนะครับ น้ำหนักแรกเกิด 3320 กรัม ยาว 54 ซม น้องเกิดเวลา 15.12 นาที วันที่ 4-11-65 ค่ะ 🌈 สุดท้ายนี้แม่อยากจะฝากถึงแม่ๆที่จะคลอดเองว่าบางสิ่งบางอย่างที่เราตั้งใจไว้แต่กลไกลร่างกายเราไม่เป็นไปตามธรรมชาติเราก็ต้องยอมรับความจริงนะคะ (อย่าน้อยแม่ก็ยังได้ลองแล้วอย่าปล่อยเวลานานแบบแม่เลยนะคะ) 🤟🏻 แม่ทนเจ็บปวด 17 ชั่วโมงเต็มๆ แต่ผ่าน้องออกแปปเดียวโล่งเลยค่ะ ✖️ ไว้แม่มารีวิวหลังผ่าตัดค่ะ ✨ #ท้องแรกคะ #คลอดแล้วจ้า ##บล็อกหลัง #แต่มีความสุขมากค่ะ