ท้องก่อนแต่ง...

เราเองก็เหมือนกันคะ ในความคิดเรา รอให้เกิดก่อนค่อยแต่งก็ได้ เพราะการแต่งมันคือความฝันสำหรับลูก ผญ แบบเราๆ อยู่แล้ว พ่อแม่ฝั่งเขาก็ใช้ให้แต่งนะคะ แต่เราสะดวกแบบนี้ อีกอย่างเราแพ้ท้องหนักด้วยเลยไม่ค่อยสะดวกที่จะแต่งตอนนี้ เพราะเราโทรมมาก ดำด้วยผอมแห้งแทบจะไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ อีกอย่าง ต่อให้เกิดลูกเสร้จแล้วจะไม่แต่งก็ไม่มีปัญหาอะไรคะ เพราะแค่ครอบครัวฝั่งแฟน เอ้นดูเรา แค่นั้นเราก็สบายใจมากแล้วคะ สู้ๆนะคะคุณแม่

ตอนคบกันใหม่ๆเคยคิดนะคะว่าอยากแต่งงานค่อยมีลูก แต่ตอนนี้ท้องจะ8เดือนละ ยังไม่แต่งและพอถึงจุดนี้คือเราคิดว่าไม่เอาเงินมาใช้ฟุ่มเฟือยดีกว่า เก็บไว้ให้ลูกที่จะเกิดมา เด็กคนๆหนึ่งกว่าจะโตใช้เงินเยอะมาก แม่บ้านนี้เลยไม่คิดจะแต่งงาน แต่คนที่บ้านก็กดดันค่ะเพราะหัวโบราณว่าท้องแล้วทำไมไม่แต่งสักที แต่เราไม่อยากแต่งอยากโฟกัสลูกและผัวทำหน้าที่ให้ดีก็พอใจแล้ว เอาเงินมาจัดงานหรือค่าสินสอดเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเยอะ

เราก็ท้องก่อนแต่งเหมือนกันค่ะ ในขณะที่เราเรียนต่อโทอยู่แน่นอนเลยว่าเราไม่ได้ทำงาน ส่วนแฟนเรานั้นเพิ่งหางานทำได้ไม่กี่เดือนนี้เอง แต่ใดๆเราก็ยังอยากจะแต่งงานอยู่เพราะความอยากของเราโดยเฉพาะ5555 คงจะจัดงานหลังที่ทุกอย่างลงตัว อาจจะ5-6ปีหลังจากมีน้องแล้ว จะท้องตอนนี้หรือจะตอนไหนเราก็ต้องท้องอยู่ดี เราว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมักจะมีเรื่องดีเสมอค่ะ💗 ตั้งรับให้ได้เป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ✨💗🌷

การแต่งงานบางครั้งก็ไม่ใช่สำคัญเสมอไปนะคะที่สำคัญคือทั้งสองคนรักและเข้าใจกันพร้อมเคียงข้างจับมือกันร่วมฝ่าปัญหาด้วยกันเสมอ ตอนนี้โฟกัสที่ลูกเราก่อนให้เขามีสุขภาพที่แข็งแรงออกมาสู่อ้อมแขนพ่อกับแม่ที่รักดูแลเอาใจใส่กัน สู้อดทนช่วยกันทำงานเก็บเงินแต่งงานกันตอนพร้อมสักปี2ปีก็ได้ ดีออกที่จะมีพยานรักตัวน้อยเข้าร่วมพิธีผูกข้อมืออีกคน สู้ๆนะแม่ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

การแต่งงานไม่ใช่คำตอบทุกอย่างค่ะ เราจัดงานแต่งเองทำเองทุกอย่างคิดว่าจะประหยัดและได้ในสิ่งที่ต้องการ สุดท้ายแพงกว่าจ้างโรงแรมอีกค่ะ แล้วเงินใส่ซองก็ไม่คุ้มทุน เอาเงินไปเที่ยวดีกว่า นี่คือสิ่งที่เราคิดนะคะ สำหรับคุณเราว่า กินข้าวในครอบครัวในร้านอาหาร จดทะเบียนเพื่ออนาคตของลูกก่อน แค่นั้นเลย สบายใจ แล้วถ้าอยากจัดงานในอนาคตก็มีโอกาสจัดได้อีกสบายค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะ สู้ๆ

เราว่างานแต่งมันคือความฝันของ ผญ 90%เลยนะ แต่สำหรับเราท้อง2 ละ(ไม่ได้แต่ง อยู่ด้วยกันเลยเพียงแค่ญาติทั้งสองฝ่ายรู้จักกันพอ) เราว่างานแต่งมันไม่สำคัญสำหรับเราเท่ากับการที่ ผช ซื่อสัตย์ต่อเรา รักเราและลูก ไม่ทิ้งให้เราต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แค่นี้เราก็พอใจแล้ว เราถือคติที่ว่า การแต่งงานไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่งไป ถ้าไม่รักก็ต้องเลิกกัน(ถ้าไม่เลิกก็ดีไป)

ไม่เคยรู้สึกอยากแต่งงานเลยค่ะ รู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองเงินมากกว่า ไม่เคยกดดันฝ่ายชายให้ต้องมาสู้ขอ ดีที่ครอบครัวเราเข้าใจด้วย ช่วยกันทำมาหากิน ไม่มีเรื่องให้เรากังวลใจ หรือคิดมากก็พอแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังมีลูก 8 เดือนแล้วค่ะ ไม่เคยติดกับคำว่าท้องก่อนแต่ง ไม่แคร์คนรอบข้างด้วย ขอแค่ครอบครัวเราเข้าใจก็พอค่ะ ท้องอยู่ต้องพยายามไม่เครียดนะคะคุณแม่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ช่วงท้องก็เป็นแบบนี้คะบ้านนี้ก้มีภาวะแบบนี้เลยแต่ก้พยายามผ่านมาหนักหนาเหมือนกันคะตอนนี้น้อง1ขวบ5เดือนก้ยังไม่ดีขึ้นแต่เราสู้เพื่อตัวเล็กคะไม่สนจอะไรอีกคิดแค่ว่าลูกเราต้องดีคะมันยากคะที่จะปล่อยวางแต่ให้คิดถึลูกคะที่สุดแล้เราจะผ่านมันได้เพราะตัวเล็กคะเค้าไม่รู้เรืีองกับเรา เราต้องทำเพื่อเค้าพอคะ อย่าสนจเสียงหรือรอบข้างมากแล้วเราจะสบายใจขึ้นนิดคะ

บ้านนี้ก็ไม่ได้แต่งค่ะ แต่ตั้งใจมีลูกกันทั้งคู่ ตอนแรกอยากจะแต่ง แต่รู้สึกเสียดายเงินที่ต้องเอาไปจัดงาน สู้เก็บเงินส่วนนั้นไว้ดูแลลูกดีกว่า คู่ไหนได้แต่งงานก็ยินดีด้วยมากๆ แต่เราคิดว่าเราสมบูรณ์แบบในมุมของตัวเองดีกว่าค่ะ อย่าไปตามใครมากเลย สมัยนี้เงินทองหายาก ไว้มีเงินเหลือๆ ค่อยแต่งงานกันก็ยังทันค่ะ ให้ลูกได้อยู่ในงานแต่งของพ่อกับแม่ด้วย

คลอดแล้วค่อยว่ากันนะคะคุณแม่ อย่าเอาเรื่องนี้มาทำให้ครอบครัวเราเครียดเพิ่มไปอีกเลยค่ะ ตัวน้อยกำลังจะออกมาอย่าให้ต้องออกมาพร้อมกับความรู้สึกว่าเรามีเค้าตอนไม่พร้อมเลย ตอนนี้ เวลานี้ นี่คือครอบครัวของเรา ให้กำลังใจกัน อย่ากดดันกันนะคะ ไปผูกข้อมือตอนที่เราพร้อม มีลูกน้อยเป็นสักขีพยาน นึกภาพตามแล้วน่ารักมากค่ะ เลิกแคร์คนอื่นนะคะ