ท้อง​19สัปดามีิอาการจุกเสียด​ท้องเป็นอันตรายมั้ยค่ะ

สาเหตุเกิดจากอะไร คนท้องที่มีอาการเหล่านี้ สาเหตุของการจุกเสียด แสบร้อนก็มาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่มันทำให้กล้ามเนื้อเรียบของคุณแม่เกิดการคลายตัว ซึ่งอาจส่งผลถึงกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารไปด้วย ดังนั้นจึงอาจทำให้น้ำยอยไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร เกิดการระคายเคืองหลอดอาหาร ส่งผลให้แม่ท้องมีอาการแสบร้อนที่ลิ้นปี่ จุกแน่น แสบร้อน นอกจากนี้ยังมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย จนบางครั้งก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียน โดยเฉพาะในช่วง 6-12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และช่วงใกล้คลอด วิธีรักษาอาการแสบร้อนของคนท้อง รับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด รับประทานอาหารตรงตามเวลาทุกมื้อ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำก่อนกลืน ไม่รับประทานให้อิ่มมากจนเกินไป ไม่นอนทันทีหลังรับประทานอาหาร หรือไม่ควรทานอาหารก่อนนอนภายใน 2 ชั่วโมง งดอาหารรสเผ็ด กาแฟ ช็อกโกแลต อาหารรสเปรี้ยวจัด ของดอง และน้ำอัดลม ลดอาหารไขมันสูงซึ่งย่อยยาก แต่ยังคงรับประทานอาหารที่มีไขมันเล็กน้อย เพราะไขมันจะช่วยยับยั้งการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร และยังช่วยนำพาวิตามินที่ละลายในไขมัน ระวังการดื่มน้ำปริมาณมากพร้อมหรือหลังอาหารทันที ให้พยายามดื่มน้ำให้พอเพียงระหว่างมื้ออาหารแทน นอนหนุนศีรษะสูง ในช่วงกลางคืนคุณแม่ตั้งครรภ์อาจต้องใช้หมอนหนุนศีรษะมากกว่าหนึ่งอันเพื่อช่วยหนุนศีรษะให้สูงขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนราบเพราะกรดในกระเพาะสามารถไหลย้อนขึ้นมาสู่ทางเดินอาหารได้ง่าย จนทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกเป็นมากขึ้น หากอาการไม่ทุเลา สามารถรับประทานยาลดกรดตามแพทย์สั่งได้

คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อน จะเป็นอันตรายไหม คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อน เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เสมอในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนท้องเกิดอาการดังกล่าว แล้วจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องไหมนะ วิธีลดอาการจุกเสียด แน่นท้องต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ ลักษณะอาการปวดลิ้นปี อาการโดยปกติของโรคกระเพาะของคนท้องกับคนทั่วไปจะคล้ายกัน คือ จะมีอาการปวดบริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่ จุก เสียด แน่น ปวดแสบปวดร้อนในท้อง และจะปวดท้องมากเวลาที่หิว พอทานอาหารนานๆ ไปแล้วอาการจะดีขึ้น บางคนจะรู้สึกปวดมากขึ้นหลังจากทานอาหาร หรือกินอาหารที่รสจัด สำหรับคนท้องจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว ขมลิ้น เจ็บปวดภายในอกและกระจายถึงคอ จนนำไปสู่อาการเจ็บคอหรือการไปเรื้อรังได้ บางคนรู้สึกปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ร้าวไปที่หลัง หรือจากลิ้นปี่ยาวลงมาเหนือสะดือ อีกโรคที่คนท้องสามารถเป็นได้เหมือนกันคือ กรดไหลย้อน จะมีอาการคล้ายๆ กระเพาะอาหารอักเสบ คือปวดแสบร้อนหรือจุกบริเวณลิ้นปี่และหน้าอก อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอตลอดเวลา คลื่นไส้หลังรับประทานอาหาร เป็นต้น ความแตกของโรคกระเพาะกับโรคกรดไหลย้อน คือ หากเป็นโรคกระเพาะมักจะปวดบริเวณลิ้นปี่ แต่ถ้าเป็นกรดไหลย้อน มักจะแสบแถวๆ หน้าอก คอ บางทีจุกที่คอหอยเหมือนจะอาเจียนออกมา ส่วนมากจะเป็นหลังกินข้าว หรือเวลางอตัว หรือเวลานอนหลังกินข้าว

อาหารที่ช่วยลดอาการปวดร้อน หากคุณแม่รู้สึกปวดแสบร้อนสามารถทานอาหารที่มีฤทธิ์ในการบรรเทาจากโรคกระเพาะ เช่น กล้วย โดยเฉพาะกล้วยน้ำหว้า เวลาที่รู้สึกว่าท้องว่างก็สามารถทานได้ทันที หรือจะกินน้ำว่านห่างจระเข้ ขมิ้นชัน เป็นต้น แต่ไม่ควรทานมากเกินไปนะคะ คนท้องกินยาลดกรดในกระเพาะได้ไหม ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร (Antacids) คนท้องไม่ควรกินในปริมาณมาก เนื่องจากในยาลดกรดชนิดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) จำนวนมากมาก กินติดต่อกันเป็นประจำ อาจทำให้คุณแม่ท้องเสีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เวลาที่ลูกคลอดออกมาก็จะมีปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดสูงมากเกินไป และอาจทำให้ลูกน้อยเกิดอาการชักกระตุกได้ หากคุณแม่ มีอาการของโรคกระเพาะอาหารเรื้อรังมาก่อนที่จะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาคุณหมออย่างสม่ำเสมอ และหลังคลอดควรเข้ารับการตรวจรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม และถ้ารู้สึกว่าอาการปวดท้องหนักขึ้น มีไข้ ตัวเหลือง ถ่ายเหลว ให้รีบไปหาคุณหมอนะคะ เพราะคุณแม่อาจจะเกิดโรคอื่นร่วมด้วย เช่น ลำไส้อักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น